ท่าเรือ Lazaro Cardenas กับ KSC International Intermodal Corridor
ท่าเรือลาซาโร คาร์เด็นนัส (Lazaro Cardenas) เป็นท่าเรือน้ำลึกฝั่งแปซิฟิก รูปแบบ multi-modal ที่รับบริการขนถ่ายคอนเทเนอร์ สินค้ากลุ่มแห้งและของเหลว (dry bulk and liquid cargo) จากภูมิภาคเอเชีย ที่มีระยะเดินทางที่ใกล้ที่สุดกับกรุงเม็กซิโกซิตี้ และมีเส้นทางรถไฟที่วิ่งออกจากจุดขนถ่ายในท่าเชื่อมโยงกับเมืองแคนซัสซิตี้ ภาคกลางของสหรัฐอเมริกา เป็นท่าเรือน้ำลึกที่ได้รับพัฒนาเป็นเวลากว่าสองทศวรรษ เพื่อรองรับการขนบรรทุกสินค้าที่เกินกำลัง ทดแทนท่าเรือเอกของเม็กซิโกซึ่งได้แก่ ท่าเรือน้ำลึก Manzanillo รวทกระทั่งเพื่อทดแทนท่าเรือน้ำลึกอันสำคัญของสหรัฐฯ นั่นคือ ท่าเรือ Long Beach และท่าเรือ Los Angeles
เมื่อปี 2548 ท่าเรือลาซาโร คาร์เด็นนัส มีความสามารถขนถ่ายสินค้าได้ 130,000 TEU แต่ได้รับการขยายความสามารถในการขนถ่ายปีละ 2.2 ล้าน TEU ปัจจุบันมีความสามารถรับคอนเทเนอร์ขนาด 12,500 TEU สินค้าที่ขนถ่ายออกจากท่าสามารถทำการขนส่งต่อโดยทางรถไฟและรถบรรทุก โดยการบริการเส้นทางรถไฟเป็นของบริษัท Kansas City Southern Railway ที่วิ่งผ่านภาคกลางของสหรัฐฯ ไปยังเมืองปลายทางฝั่งเหนือที่ชิคาโก และฝั่งตะวันออกของสหรัฐฯ ที่เมืองฮูสตัน
การพิจารณาความมั่นคงของประเทศ การลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การกระจายความเสี่ยง การส่งเสริมการค้าระดับภูมิภาคอเมริกาเหนือ และข้อจำกัดในการขยายพื้นที่ของท่าเรือน้ำลึกสำคัญๆ เดิมของสหรัฐฯ ล้วนเป็นปจจัยที่ผลักดันให้หน่วยงานทั้งรัฐและเอกชนต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องการขนถ่ายสินค้า (logistics) ในสหรัฐฯ แคนาดา และเม็กซิโก หันมาให้ความสนใจอย่างเร่งด่วน ต่อการพัฒนาศูนย์กลางการขนถ่ายสินค้า (trade hubs) ท่าศุลกากรภายใน (inland ports) และเส้นทางขนถ่ายสินค้าระหว่างประเทศสายด่วน (trade corridors) ทั้งนี้ เส้นทางการขนถ่ายสินค้าทางรถไฟย่อมมีต้นทุนในการพัฒนาที่ได้เปรียบกว่าเส้นทางรถบรรทุก ฉะนั้นเส้นทางรถไฟที่เชื่อมการขนถ่ายจากเหนือลงใต้ หรือจากใต้ขึ้นทางเหนือ ที่มีระยะทางที่เป็นกลางระหว่างสองฝั่งทะเลแปซิฟิกและแอ๊ทแลนติก อย่างเส้นทางที่ได้รับการพัฒนาโดยผู้เดินรถไฟสาย Kansas City จึงได้รับความสนใจอย่างเป็นพิเศษ และท่าเรือต้นทางของเส้นทางดังกล่าว ได้แก่ ท่าเรือน้ำลึกลาซาโร คาร์เด็นนัส
ปัจจัยที่ได้กระตุ้นให้มีการพัฒนาเส้นทางขนส่งด่วนผ่านภาคกลางของทวีปอมเริกาได้เริ่มต้นตั้งแต่ปี2538 เมื่อรัฐบาล เม็กซิโกได้เปิดเสรีกิจการท่าเรือ อนุญาติให้ต่างชาติสามารถลงทุนได้ร้อยเปอร์เซ็นต์ในการเป็นเจ้าของท่า และอนุมัติให้ต่างชาติร่วมลงทุนกับองค์การบริหารท่าของรัฐได้ถึงร้อยละ 49 จึงสามารถชักจูงการลงทุนได้หลายพันล้านเหรียญฯ โดยการลงทุนที่ใหญ่ที่สุด ได้รับการลงทุนจากบริษัท Hutchison Port Holding, Ltd. ของฮ่องกง ที่ได้วางแผนการพัฒนาท่าเรือลาซาโร คาร์เด็นนัส ระยะเวลา 20 ปี งบประมาณ 290 ล้านเหรียญฯ เพื่อขยายพื้นที่ท่าเทียบเรือให้มีความกว้าง 1,481 เมตร และขุดคลองความลึก18 เมตรเพื่อรับเรือคอนเทเนอร์ขนาดใหญ่ ขยายพื้นที่คลังสินค้าเป็น 102 เฮกเตอร์ ที่มีความสามารถเก็บคอนเทเนอร์นิ่ง (static capacity) ได้มากกว่า 70,000 TEU และความสามารถเวียนคอนเทเนอร์ (dynamic capacity) ได้ 2 ล้าน TEU สร้างงานใหม่ในท่า 2,900 คน
ต่อมาในปี 2540 รัฐบาลเม็กซิโกได้แปรสภาพสถานะขององค์การรถไฟแห่งชาติเม็กซิโก เปิดทางให้บริษัทรถไฟของหสรัฐฯ ลงทุนร่วมเพื่อการขนถ่ายสินค้าที่ขนส่งจากท่าเรือ ซึ่งเดิมขาดประสิทธิภาพ มีปัญหาการขนถ่ายล่าช้า โดยบริษัท Kansas City Southern เป็นผู้พัฒนาเส้นท่างที่สำคัญ เกิดการเชื่อมโยงระหว่างภาคกลางของสหรัฐฯ กับริมฝั่งทะเลแปซิฟิก เป็นเส้นทางเลือกเพื่อหลีกเลี่ยงความล่าช้าจากคอขวดการขนถ่ายสินค้าจากท่าเรือฝั่งตะวันตก
ในปี 2545 เม็กซิโกได้เป็นเจ้าภาพการประชุมซัมมิทเอเป็ค และได้ริ่เริ่มโครงการ Trans-Pacific Multimodal Security System หรือ TPMSS ซึ่งส่งเสริมความร่วมด้านศุลกากร ความมั่นคง และโครงสร้างการขนถ่ายสินค้า เพื่อเอื้ออำนวยให้ supply chain สายลาซาโร คาร์เด็นนัส กับแคนซัสซิตี้
ในปัจจุบัน ท่าเรือลาซาโร คาร์เด็นนัส มีเขตอุตสาหกรรมพิเศษปลอดภาษี มีโรงปั่นไฟฟ้าเฉพาะ โรงกลั่นน้ำเสีย อู่ซ่อมและทำลายซากเรือเก่า มีศูนย์กลางการตรวจ fitosanitary inspection facility สำหรับสินค้าเกษตรปริมาณสูง มีบริการห้องเย็นขนาดใหญ่สำหรับสินค้าสด โดยบริษัทผู้บริการขนส่งสินค้าโดยรถบรรทุกแช่เย็น ได้แก่ บริษัท UTTSA ที่มีรถบรรทุกจำนวน 200 คันรับส่งสินค้าข้ามชายแดนถึงสหรัฐฯ มีศูนย์กลางการบริการศุลกากรที่ทันสมัยที่สุด สามารถผ่านขบวนการออกสินค้าในเพียงสามวันเทียบกับหกวันในท่าอื่น ๆ มีการขนถ่ายสินค้าน้ำหนักสูงเช่น ถ่านหิน และเหล็ก โดยท่าเรือน้ำลึกลาซาโร คาร์เด็นนัส มีลูกค้าสำคัญ คือบริษัท Mittal Steel มีการขนถ่ายของเหลว โดยมีลูกค้าสำคัญ อันได้แก่บริษัทพีเม็กซ์ นอกจากนี้แล้ว ยังเป็นท่าเรือที่รับการขนถ่ายรถยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในเม็กซิโก โดยในปีที่ผ่านมา มีบริษัท Faw ของจีนที่เป็นลูกค้ารายใหม่ ลูกค้าเดิมได้แก่ Chrysler, Ford, GM, Toyota, Isuzu, Mazda, Pontiac, Hino และ Subaru
เส้นทางเดินเรือที่มีบริการที่ท่าเรือลาซาโร คาร์เด็นนัส สายสำคัญสามสาย ได้แก่ CP Ships, APL, Maersk Sealand บริษัทเดินเรือสายอื่น ๆ ที่ให้บริการที่ท่าเรือลาซาโร คาร์เด็นนัส รองลงมาได้แก่ APL, CCNI, Cosco, CSAV, Evergreen, Hapag Lloyd และ Hamburg Sud
แหล่งข้อมูลเพิ่มเติม:
Lazaro Cardenas Port Handbook ที่ issuu.com
http://www.puertolazarocardenas.com.mx/plc/
Kcsmartport.com
Kcssouthern.com