อุตสาหกรรมสิ่งทอเม็กซิโกฟื้นตัวและเริ่มมีความแข่งขันเทียบเท่ากับจีน
นายกสมาคมสิ่งทอแห่งเม็กซิโก (CANAINTEX) นาย Rodolfo García Muriel ได้รายงานว่า ภาวะอุตสาหกรรมสิ่งทอของเม็กซิโกในปี 2010 ได้แสดงตัวเลขการฟื้นตัวที่ดี โดยผลผลิตของภาคอุตสาหกรรมสิ่งทอได้ขยายตัวในอัตราร้อยละ 7.6 เป็นอัตราการขยายตัวที่สูงที่สุดในรอบสิบปีที่ผ่านมา และเป็นตัวเลขการขยายตัวที่สูงกว่าการขยายตัวของเศรษฐกิจของเม็กซิโกโดยทั่วไป ที่ขยายตัวในอัตราร้อยละ 5.5 สำหรับปี 2010 นอกจากนี้แล้ว การส่งออกสินค้าสิ่งทอและเสื้อผ้าได้เพิ่มขึ้นถึงร้อยละ 43 และ 5 ตามลำดับเมื่อเทียบกับมูลค่าการส่งออกของปี 2009 ที่มีมูลค่าการส่งออกรวม 996 ล้านเหรียญสหรัฐ รายการสินค้าส่งออกเครื่องนุ่งห่มที่สำคัญของเม็กซิโก ได้แก่ กางเกงยีนส์ สูทสำเร็จรูปผ้าวูลล์ ถุงเท้า และเสื้อยืด แหล่งส่งออกที่สำคัญได้แก่ สหรัฐฯ แคนาดา โคลัมเบีย และจีน
ปัจจัยสำคัญของการฟื้นตัวของภาคสิ่งทอเม็กซิโก มีผลสืบเนื่องมาจากปัจจัยสองประการ ประการแรกคือการกระจายแหล่งส่งออก ในปัจจุบันเม็กซิโกมีแหล่งส่งออกสินค้าสิ่งทอกว่า 60 ประเทศ โดยได้มีการขยายการส่งออกไปยังประเทศอื่นๆ การส่งออกไปยังภูมิภาคละตินอเมริกามีสัดส่วนการส่งออกร้อยละ 30.2 ภูมิภาคยุโรปสัดส่วนการส่งออกร้อยละ 4 และภูมิภาคเอเชียสัดส่วนการส่งออกร้อยละ 3.8 ทั้งนี้ สหรัฐฯ ยังคงเป็นตลาดที่สำคัญที่สุดสำหรับการส่งออกสิ่งทอของเม็กซิโก ในสัดส่วนร้อยละ 66
ปัจจัยอีกประการหนึ่ง ได้แก่ แผนการรณรงค์ภาคสิ่งทอเม็กซิกันที่มีชื่อว่า Mexico Fits ที่ได้ริเริ่มขึ้นเมื่อปี 2009 เพื่อกระตุ้นการฟื้นตัวจากภาวะวิกฤตการณ์เศรษฐกิจ ซึ่งเป็นการรณรงค์เรื่องคุณภาพของสินค้าสิ่งทอเม็กซิกัน และความพร้อมในการผลิตตามคำสั่งการออกแบบที่นำสมัย
ภาคอุตสาหกรรามสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มเป็นอุตสาหกรรมที่สำคัญของเม็กซิโก โดยการจ้างงานในภาคดังกล่าว มีแรงงานประมาณ 500,000 คน หรือร้อยละ 13 ของแรงงานในภาคอุตสาหกรรมการผลิต หนึ่งส่วนสี่ของแรงงานดังกล่าวจะทำงานในภาคสิ่งทอ อีกสามส่วนสี่ทำงานในส่วนการผลิตเครื่องนุ่งห่ม
อุตสาหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของเม็กซิโก ได้มีการเปลี่ยนแปลงทั้งในทางที่ดีและในทางไม่ดีหลายประการ ในรอบ 10-15 ปีที่ผ่านมา ตั้งแต่การเปิดตลาดเสรีภายใต้ความตกลงการค้าเสรีนาฟต้าในปี 1994 ได้เกิดการผลิตแบบมาคีลาดอร่า นั่นคือ การใช้สิทธิประโยชน์ที่อนุมัติภายใต้โครงการดังกล่าวเพื่อนำเข้าวัตถุดิบจากสหรัฐฯ ทำการผลิตแปรรูปสินค้าเพื่อการส่งออกกลับคืนไปยังสหรัฐฯ การส่งออกเสื้อผ้าประเภทผ้าฝ้ายได้ขยายตัวเพิ่มขึ้นจากมูลค่าส่งออก 3 พันล้านเหรียญในปี 1995 เป็นมูลค่า 8.4 พันล้านเหรียญในปี 2002 โดยมีมูลค่าการส่งออกสูงสุด 9.4 พันล้านเหรียญในปี 2000 ในขณะที่สหรัฐฯ สามารถส่งออกวัตถุดิบเส้นด้ายจากฝ้ายไปยังเม็กซิโกเป็นมูลค่า 1.1 พันล้านเหรียญในปี 1995 เพิ่มขึ้นเป็น 3 พันล้านเหรียญในปี 2002 ในปีต่อ ๆ มา เม็กซิโกได้กลายเป็นแหล่งนำเข้าสินค้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มอันดับหนึ่งสำหรับสหรัฐฯ แต่กลับมาเสียเปรียบให้กับประเทศจีนอย่างรวดเร็ว เมื่อจีนได้เข้าร่วมเป็นสมาชิกองค์การค้าโลกในปี 2002 ในปี 2007 ประเทศจีนสามารถส่งออกสินค้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มไปยังสหรัฐฯ ได้เป็นร้อยละ 36 ของตลาดนำเข้าสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มของสหรัฐฯ ทั้งหมด ในขณะที่เม็กซิโกสามารถส่งออกได้เพียงร้อยละ 7 ทำให้เม็กซิโกตกมาเป็นแหล่งนำเข้าสำหรับสินค้าสิ่งทออันดับ 4 ของสหรัฐฯ ต่อมาในปี 2008 และ 2009 ภาคอุตสาหกรรมสิ่งทอของเม็กซิโกได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์การเงินของสหรัฐฯ อย่างแรงมากกว่าภาคการผลิตอื่นๆ การส่งออกสิ่งทอไปยังสหรัฐฯ ได้ลดลงจาก 5.6 พันล้านเหรียญในปี 2008 เป็น 4.2 พันล้านเหรียญในปี 2009 อันเป็นผลให้มีการปิดโรงงานไปหลายร้อยแห่ง และได้มีไล่คนงานออกเป็นหลายหมื่นคน
ปี 2010 เป็นปีที่ได้เริ่มเห็นผลประโยชน์จากการลงทุนซื้อเครื่องจักรใหม่ และปรับปรุงโรงงานในภาคอุตสาหกรรมสิ่งทอ มูลค่าการลงทุนใหม่ประมาณ 2 พันล้านเหรียญฯ ที่ภาคอุตสาหกรรมดังกล่าวได้ดำเนินมาในรอบ 5 ปีที่ผ่านมา ซึ่งได้แสดงผลในการขยายตัวร้อยละ 7.6 ของภาคอุตสาหกรรมฯ ในปีนี้ ตามที่นายกสมาคมสิ่งทอเม็กซิกันอ้างถึงข้างต้น นอกจากนี้แล้ว ได้มีการคาดคะเนเพิ่มเติมว่า ภาคอุตสหกรรมสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มในเม็กซิโกจะขยายตัวต่อไปอีกในอัตราร้อยละ 6 สำหรับปี 2011
ตลาดสำหรับเครื่องนุ่งห่มภายในประเทศของเม็กซิโก
ถึงแม้ว่าตลาดภายในประเทศของเม็กซิโกจะได้รับผลกระทบจากการหดตัวของเศรษฐกิจสหรัฐฯ และการหดตัวของการส่งเงินกลับจากคนงานเม็กซิกันในสหรัฐฯ ตลาดภายในของเม็กซิโกยังคงเป็นตลาดที่ใหญ่เป็นอันดับสองของภูมิภาคละตินอเมริกา โดยเม็กซิโกมีประชากรมากเป็นอันดับสองของภูมิภาคฯ การขยายตัวของร้านค้าที่ขายเสื้อผ้าสำเร็จรูป ได้ขยายตัวในอัตราร้อยละ 41 จากปี 1998 ถึง 2008
ตลาดเครื่องนุ่งห่มในเม็กซิโกมีลักษณะของตลาดที่มีการแบ่งแยกสูง โดยบริษัทวิจัยตลาด Trendex Mexico ได้รายงานว่า มีบริษัทใหญ่คุมตลาดเครื่องนุ่งห่มในสัดส่วนร้อยละ 38.6 เพียง 11 บริษัท ซึ่งรวมถึง Suburbia (ร้อยละ 8.9) Liverpool/Fabricas (ร้อยละ 7.5) Bodega Aurrera (ร้อยละ 3.5) Coppel (ร้อยละ 3.5) Walmart de Mexico (ร้อยละ 3.4) และ Zara (ร้อยละ 2.4) ทั้งนี้ ห้างสรรพสินค้า Wal-Mart ได้เปิดร้านใหม่ถึง 174 แห่งในปี 2009 นอกจากนี้แล้ว กลุ่มธุรกิจด้านเครื่องนุ่งห่ม Cherokee, Gap และ Inditex (Zara) ได้เปิดร้านค้าใหม่ๆ เช่นกัน
โครงการ Mexico Fits
โครงการ Mexico Fits
สมาคมสิ่งทอเม็กซิโกร่วมกับกระทรวงเศรษฐกิจและกลุ่มบริษัทสิ่งทอเม็กซิกันจำนวนหนึ่ง ได้ร่วมกันริเริ่มโครงการ Mexico Fits เมื่อปี 2008 เพื่อการเผยแพร่ข้อมูลเกี่ยวกับความพร้อมด้านสิ่งทอของเม็กซิโก นับว่าเป็นโครงการที่ประสบความสำเร็จสูง ตัวอย่างกิจกรรมต่างๆ ภายใต้โครงการดังกล่าว ได้แก่ การส่งเสริมให้ห้างสรรพสินค้า เช่น Suburbia, Comercial Mexicana, Soriana และ Liverpool มุ่งเน้นการขายยี่ห้อเม็กซิกัน เช่น ยี่ห้อ Kaltex, Yale และ Cannon ให้เท่าเทียมกับสินค้าอเมริกันที่เป็นสินค้าที่ห้างเหล่านี้นิยมส่งเสริม การนำดีไซน์เนอร์เม็กซิกันไปร่วมประกวดการออกแบบในงานแสดงสินค้าที่สหรัฐฯ การพาสมาชิกสมาคมสิ่งทอเดินทางไปพบกับผู้นำเข้าและตัวแทนธุรกิจสิ่งทอและเครื่องนุ่งห่มในสหรัฐฯ การส่งเสริมการวิจัยและนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาใช้ในการออกแบบสินค้าสิ่งทอใหม่ๆ เช่น การผลิตผ้าป้องกันไฟสำหรับการใช้ในภาคอุตสาหกรรม การออกแบบผ้าที่ทำการฆ่าเชื้อโรงไปในตัวสำหรับใช้ในภาคสุขอานามัย เป็นต้น
แนวโน้มการบริโภคที่เน้นเฟชั่นมากขึ้น
ผลวิจัยตลาดของ Euromonitor ได้รายงานว่า ผู้บริโภคเครื่องนุ่งห่มเม็กซิกันได้พัฒนารสนิยม มีความตื่นตัวในด้านแฟชั่นมากขึ้น โดยการขายเครื่องประดับและเครื่องตกแต่งเสื้อผ้า เป็นภาคตลาดย่อยที่ได้ขยายตัวมากระหว่างปี 2007-2008 และคาดว่า การขายในภาคตลาดย่อยดังกล่าวจะมีมูลค่ารวมประมาณ 560 ล้านเหรียญสหรัฐภายในปี 2013 ภาคตลาดย่อยอีกภาคหนึ่งที่ได้มีการขยายตัวสูงในรอบ 10 ปีที่ผ่านมา ได้แก่ กลุ่มเสื้อผ้ากีฬา เนื่องจากค่านิยมการเป็นสมาชิกศูนย์ออกกำลังกายที่เพิ่มขึ้น และการตื่นตัวในเรื่องของสุขภาพ ส่วนภาคตลาดย่อยที่มีแนวโน้มการขยายตัวสูงในปีนี้ และปีต่อไป ได้แก่ กลุ่มเสื้อผ้าชั้นในและชุดนอน
ชาวเม็กซิกันมีค่าเฉลี่ยของค่าใช้จ่ายสำหรับเสื้อผ้าประมาณ 195 เหรียญสหรัฐต่อหัวต่อปี โดยมีความนิยมในการซื้อเสื้อผ้าจากตลาดทั่วไป (street markets) ร้อยละ 33 ในห้างสรรพสินค้าประมาณร้อยละ 25 ซื้อจากร้านบูติ๊ก ร้อยละ 21 และในร้านซุปเปอร์มาร์เก็ต ร้อยละ 16 ปัญหาใหญ่สำรหรับการจำหน่ายปลีกสำหรับสินค้าเสื้อผ้า ได้แก่ การแข่งขันด้านราคากับเสื้อผ้าราคาถูกที่ลักลอบนำเข้ามาจากประเทศจีน ซึ่งมีส่วนแบ่งการครองตลาดประมาณร้อยละ 56 ของยอดขายเสื้อผ้าสำเร็จรูปทั้งหมด
การสอบสวนการทุ่มตลาดผ้าเดนิมจากประเทศจีน
การสอบสวนการทุ่มตลาดผ้าเดนิมจากประเทศจีน
เมื่อปี 2009 ตัวแทนสมาคมผู้ผลิตเครื่องนุ่งห่มแห่งเม็กซิโก (CANAIVE) ได้ทำการประท้วงในนามของสหภาพผู้ผลิตผ้าเดนิม (ยีนส์) กับกระทรวงเศรษฐกิจของเม็กซิโก เรียกร้องการสอบสวนการทุ่มตลาดสำหรับการนำเข้าผ้าประเภทเดนิมจากประเทศจีน โดยได้อ้างว่า ราคาผ้าเดนิม 27 สตางค์ต่อตารางเมตรที่ผู้นำเข้าจากจีนเสนอขาย เป็นราคาที่ต่ำกว่าต้นทุนการผลิต จึงควรถือเป็นการทุ่มตลาด และควรเรียกเก็บภาษีป้องกันการทุ่มตลาดเพื่อปกป้องผู้ผลิตภายในประเทศ การนำเข้าผ้าเดนิมจากจีนในราคาต่ำเกินทุนดังกล่าว ได้มีผลทำให้โรงงานผลิตเส้นด้ายฝ้ายในเม็กซิโกต้องปิดไปหลายโรงงาน การนำเข้าผ้าเดนิมจากจีนได้เพิ่มขึ้นกว่าสองเท่า (ร้อยละ 236) ระหว่างปี 2007-2010 และในปัจจุบันได้มีการนำเข้าผ้าเดนิมจากจีน เทียบเท่ากับร้อยละ 26 ของผลผลิตภายใน
ภายหลังการสอบสวนและรอให้ผู้ประท้วงแสดงหลักฐานของการทุ่มตลาดอย่างแน่ชัด มาเป็นเวลาสองปี กระทรวงเศรษฐกิจเม็กซิโกได้ประกาศผลสรุปการสอบสวนฯ เมื่อเดือนตุลาคม 2011 แจ้งผลว่า เนื่องจากการขาดหลักฐานสนับสนุนข้อกล่าวหาดังกล่าง จึงไม่สามารถเรียกเก็บภาษีต่อต้านการทุ่มตลาดสำหรับการนำเข้าผ้าเดนิมจากประเทศจีน และคงการเก็บภาษีนำเข้าสำหรับสิ่งทอหมวดนี้เท่าเดิม ในอัตราร้อยละ 10 ของมูลค่าการนำเข้า
รายชื่อบริษัทสิ่งทอที่เป็นสมาชิก CANAINTEX:
1. AMERICAN TEXTIL, S. A. DE C. V. รายชื่อบริษัทสิ่งทอที่เป็นสมาชิก CANAINTEX:
2. TEXTILES ROMATEX, S. A. DE C. V.
3. FARIEL, S. A. DE C. V.
4. TELAS Y TINTES DE MEXICO, S. A. DE C. V.
5. GRUPO MILLTEX, S. A. DE C. V.
6. ANAHUAC SOUTH CAROLINA ELASTIC, S. A. DE C. V.
7. ETIC ART, S. A. DE C. V.
8. ACABADOS LEORLEN S. A. DE C. V.
9. KALTEX, S. A. DE C. V.
10. TEJIDOS TEXTILES ESPECIALIZADOS, S. A. DE C. V.
11. GRUPO DIFOSA, S. A. DE C. V.
12. ERATEX, S. A. DE C. V.
13. TEXTURIZADOS Y TEJIDOS WINDSOR, S. A. DE C. V.
แหล่งข่าวอ้างอิง: