Energy Liberalization, a campain issue

ภาคพลังงาน หัวใจสำคัญสำหรับการเลือกตั้งประธานาธิบดีใหม่ของเม็กซิโก

กลุ่มที่ปรึกษาวิเคระห์สถานการณ์การเมืองเม็กซิโก Emerging Markets Political Risk Analysis ได้รายงานว่า ประเด็นเรื่องการปฏิรูปเปิดเสรีภาคพลังงาน และการปรับโครงสร้างองค์กรน้ำมันแห่งเม็กซิโก (PEMEX) ได้รับความสนใจเป็นข้อถกเถียงสำคัญสำหรับการเลือกตั้งประธานาธบดีคนใหม่ของเม็กซิโก ซึ่งมีกำหนดการเลือกตั้งฯ ในวันที่ 1 กรกฏาคม ค.ศ. 2012 

ท่าทีของผู้แข่งขันตัวแทนพรรคสำคัญสามพรรคของเม็กซิโก มีประเด็นที่ใกล้เคียงกัน โดยนาง Josefina Vazquez Mota ตัวแทนพรรค PAN และนาย Enrique Pena Nieto ตัวแทนพรรค PRI ต่างมีความเห็นว่า ต้องการส่งเสริมให้ภาคเอกชนมีบทบาทในการลงทุนในพรรคพลังงานเพิ่มขึ้น โดยมีความโน้มเอียงไปในลักษณะรูปแบบของบริษัท Petrobas ของประเทศบราซิล ที่เป็นผู้นำในตลาดพลังงานในบราซิล แต่ยังคงอยู่ภายใต้การอำนาจการบังคับของรัฐซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นสำคัญของบริษัท ทั้งนี้ นาง Josefina Vazquez Mota มีความเห็นว่าควรมีการเสนอขายพันธบัตรของเปเม็กซ์ให้ประชาชนเม็กซิกันได้มีส่วนเป็นผู้ลงทุนถือหุ้นองค์กรฯ รวมทั้งเห็นควรเสนอขายหุ้นองค์กรฯ ให้แก่ภาคเอกชนร่วมทุนในสัดส่วนร้อยละ 30 ในขณะที่นาย Enrique Pena Nieto ให้ความสำคัญแก่การขายหุ้นของเปเม็กซ์ ให้ภาคเอกชนสามารถเป็นหุ้นส่วนในธุรกิจด้านพลังงาน ส่วนนาย Lopez Obrador ตัวแทนพรรค PRN ค่อนข้างมีความเห็นแตกต่างออกไป คือไม่ประสงค์จะเปิดให้ภาคเอกชนลงทุนร่วมกับเปเม็กซ์ และมีคิดที่จะใช้ตัวแบบในลักษณะของบริษัท StatOil ของประเทศนอร์เวย์เป็นตัวอย่างอย่างหลวม ๆ แต่ไม่ประสงค์ที่จะนำเปเม็กซ์เข้าตลาดหลักทรัพย์ หรือเปิดหุ้นขายให้แก่ภาคเอกชน 

การปรับโครงสร้างนำเปเม็กซ์เข้าตลาดหลักทรัพย์เม็กซิโก เพื่อเปิดให้มีการซื้อขายหุ้นบริษัทฯ จะต้องมีการเปลี่ยนข้อกำหนดเกี่ยวกับการถือครองทรัพยากรธรรมชาติในรัฐธรรมนูญของเม็กซิโก 

ผลผลิตน้ำมันของเม็กซิโกในรอบยี่สิบปีที่ผ่านมาได้ลดลงอย่างรวดเร็ว และเปเม็กซ์ขาดความสามารถด้านเทคโนโลยีระดับสูงเพื่อการขุดเจาะแสวงหาน้ำมันเพิ่ม ขาดความสามารถในการเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสำหรับแหล่งน้ำมันขนาดเล็ก ซึ่งเป็นแนวโน้มสำหรับการผลิตน้ำมันในอนาคตของเม็กซิโก รวมทั้งไม่ได้มีพัฒนาปรับปรุงด้านความสามารถในการกลั่นน้ำมัน 

ประเด็นปัญหาเกี่ยวกับโครงสร้างขององค์กรน้ำมันแห่งเม็กซิโก เป็นปัจจัยที่เป็นเหตุให้เม็กซิโกยังคงต้องพึ่งพาการนำเข้าน้ำมันจากต่างประเทศ ถึงแม้ว่าตนจะเป็นผู้ส่งออกน้ำมันดิบที่สำคัญ ผลผลิตน้ำมันที่ต่ำกว่าที่เคยผลิตได้ จะเริ่มมีผลวิกฤติต่อสถานะการเงินของรัฐบาลในสมัยของประธานาธิบดีคนใหม่ เนื่องจากรายได้ของรัฐพึ่งรายได้จากเปเม็กซ์เป็นสำคัญ สถานะการณ์ด้านการเงินที่มีความวิกฤติดังกล่าวย่อมหมายความว่า รัฐบาลเม็กซิโกต้องหาทุนเพิ่มโดยการส่งเสริมการลงทุนจากภาคเอกชน 

เปเม็กซ์ได้รายงานยอดผลผลิตน้ำมันในเดือนกุมภาพันธุ์ 2012 ปริมาณ 2.555 ล้านเบเรลต่อวัน ซึ่งเป็นผลผลิตที่ใกล้เคียงกับผลผลิตในช่วงเดียวกันในปีที่ผ่านมา ส่วนการส่งออกน้ำมันดิบได้ลดลงเล็กน้อย โดยมีปริมาณการส่งออกเดือนมกราคม 2012 เท่ากับ 1.191 ล้านเบเรลต่อวัน เปเม็กซ์ได้มีการเพิ่มความสามารถในการกลั่นน้ำมันได้เล็กน้อย แต่อย่างไรก็ตาม ความสามารถในการกลั่นน้ำมันของเม็กซิโกจะไม่ปรับปรุงในทางที่ดีขึ้น จนกว่าโรงกลั่นน้ำมันใหม่ที่เมือง Tula รัฐ Hidalgo จะเปิดทำการผลิตในปี 2016