Google Website Translator

Tuesday, October 28, 2008

Investments in alternative energy in Mexico

การลงทุนด้านพลังานทางเลือก

บริษัท Q-Cell

เมือเดือนมิถุนายน 2008 บริษัท Q-Cell แห่งประเทศเยอรมัน ได้ประกาศแผนการลงทุด้านพลังงานสำคัญในโครงการก่อสร้างโรงงานผลิตแผ่นไฟล์มแปลงพลังแสงอาทิตย์เป็นไฟฟ้า ที่เมือง Mexicali รัฐ Baja California เงินลงทุนจำนวน 3.5 พันล้านเหรียญฯ ซึ่งจะมีระยะเวลาการสร้างและขยายโรงงานระหว่าง 3 ถึง 5 ปี โดยคาดว่าจะมีการจ้างงานสืบเนื่องประมาณ4,500 ตำแหน่งโดย และการจ้างงานในกิจกรรมที่เกี่ยวข้องอีกประมาณ 13,000 ตำแหน่ง

เทคโนโลยีที่บริษัท Q-Cell พัฒนาเป็นเทคโนโลยีแผ่นไฟล์มบาง (thin film technology) ซึ่งกำลังก้าวเป็นส่วนสำคัญของตลาดพลังงานแสงอาทิตย์ โดยในปัจจุบัน บริษัท Q-Cell มีสัดส่วนแบ่งการครองตลาดอยู่ร้อยละ 10 ของตลาดแผงผลิตพลังงานจากแสงอาทิตย์

โครงการลงทุนของบริษัท Q-Cell เป็นแผนการลงทุนที่ใหญ่ที่สุดที่ได้ประกาศในรอบปี 2008 ทั้งนี้ โครงการลงทุนใหญ่อีก 2 โครงการได้แก่ โครงการลงทุนของบริษัท Ford จำนวน 2.4 พันล้านเหรียญฯ และโครงการลงทุนของบริษัท Bombardier จำนวน 250 ล้านเหรียญฯ

รองประธานบริษัท Q-Cell นาย Leo Van der Holst ได้กล่าวว่า บริษัท Q-Cell มีเป้าหมายการผลิตเพื่อป้อนตลาดสหรัฐฯ เม็กซิโก และลาตินอเมริกา

ประธานาธบดีเม็กซิโก นายคาลเดรอนได้แสดงความยินดีต้อนรับการลงทุนดังกล่าวและได้กล่าวว่ารัฐบาลเม็กซิโกจะสนับสนุนการลงทุนในพลังงานททางเลือกโดยมาตรการด้านภาษี และการสนับสนุนผู้ใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ให้สามารถขายพลังงานส่วนเกินให้กับการไฟฟ้าของเม็กซิโกได้

แหล่งข่าว: The News (06/06/08, 06/11/08) และ "Q-Cells largest producers in 2007"
หน้าเวปที่เกี่ยวข้อง:
การไฟฟ้าของเม็กซิโก (CFE) Comision Federal de Electricidad,
Fideicomiso para el Ahorra de Energia Electrica
Asociacion Nacional para Energia Solar และ
บทความเกี่ยวกับประสิทธิภาพพลังงานในเม็กซิโก Energy Efficiency

กองทุนสนับสนุนที่อยู่อาศัยคนงาน ให้เงินกู้แก่เจ้าของบ้านเรือนเพื่อการติตั้งหม้อต้มน้ำร้อนพลังงานแสงอาทิตย์

กองทุนสนับสนุนที่อยู่อาศัยคนงาน (Infonavit) มีโครงการเพิ่มเติมเงินกู้สำหรับผู้ซื้อบ้านใหม่จำนวนหลังละประมาณ 15,000 เปโซ สำหรับการติดตั้งหม้อต้มน้ำพลังงานแสงอาทิตย์ เพื่อช่วยประหยังค่าพลังงาน โดยกองทุนฯ มีเป้าหมายที่จะให้เงินกู้เพื่อพลังงานดังกล่าวทั้งหมด 50,000 รายในสิ้นปี 2008 และเพิ่มเป็น 200,000 รายต่อปีในปีถัดไป

บริษัท GISSA (Grupo Industrial Saltillo) ได้ประกาศว่าจะเพิ่มการผลิตหม้อต้มน้ำพลังแสงอาทิตย์ยี่ห้อ Solei เป็น 100,000 หน่วยต่อปี เพื่อรองรับนโยบายดังกล่าวข้างต้น

ข่าว The News 08/26/08

บริษัท Energias de Portugal สนใจลงทุนในการผลิตพลังงานจากลมในเม็กซิโก

บริษัทพลังงานของประเทศโปรตุเกส ซึ่งกลายเป็นผู้ผลิตพลังงานจากลมอันดับ 4 ของโลกเมื่อปี 2007 หลังจากการซื้อบริษัท Horizon Wind Energy ของรัฐ Texus ได้ออกหุ้นเพื่อระดุมทุนในตลาดหลักทรัพย์เมื่อวันที่ 2 มิถุนายน 2008 จำนวนหุ้น 225 ล้านหุ้น มูลค่าประมาณ 8 พันล้านเหรียญยูโร เพื่อขยายพื้นที่การผลิตพลังงานงานจากลมในประเทศโปแลดนด์และสหรัฐฯ และได้ประกาศว่า บริษัท EDP มีความสนใจขยายการลงทุนในประเทศแคนาดาและเม็กซิโกต่อไป

บริษัท Gamesa ของประเทศเสปน ขายเครื่องปั่นไฟสำหรับแปลงพลังงานจกาลมให้กับบริษัท Iberdrola Renovables เพื่อป้อนพลังงานจากลมให้กับประเทศเม็กซิโกและสาธารณรัฐดอมินิกัน โดยในประเทศเม็กซิโก ได้ผลิตพลังาน ได้ 29.813 ล้าน khW ซึ่งมีสัดส่วนเป็นร้อยละ 11 ของพลังงานทั้งหมดในเม็กซิโก โดย Iberdrola ได้ลงทุนจำวน 288 ล้านยูโรในประเทศเม็กซิโกในปี 2007

ข่าว The News (05/22/08, 06/19/08)

Wednesday, October 22, 2008

Mexico imports $5 billion from Italy

ประเทศอิตาลีเป็นผู้นำเข้าสินค้าจากเม็กซิโกเป็นอันดับสองในกลุ่มประเทศยุโรป (รองจากประเทศเยอรมัน) โดยมีมูลค่าการนำเข้าประมาณ 5 พันล้านเหรียญฯ เป็นสินค้าในจำพวกเครื่องจักร สิ่งก่อสร้าง และสินค้า fashion and design

การส่งออกของอิตาลีได้ขยายตัวในอัตราร้อยละ 20 ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา โดยการส่งออกเครื่องจักอุตสาหกรรม เป็นสินค้าส่งออกที่สำคัญสุด มูลค่าการส่งออกประมาณ 1.3 พันล้านเหรียญฯ

นาย Andrea Ferrari ผู้อำนวยการสถาบันการค้าของอิตาลี ได้กล่าวว่ามีบริษัทของอิตาลีที่ดำเนินกิจการในเม็กซิโกประมาณพันกว่าแห่ง โดยส่วนใหญ่เป็นกิจกรรมขนาดกลางและดำเนินธุรกิจอย่างเฉพาะเจาะจง เช่น การให้บริการสำหรับรถยนต์ยี่ห้อ Ferrari บริษัทที่มีการลงทุนขนาดใหญ่โดยมีโรงงานในเขต Monterrey และ San Luis Potosi ได้แก บริษัท Barrilla ซึ่งเป็นผู้ผลิตเส้นพาสต้า และบริษัท Zoppas ผู้ผลิตอุปกรณ์ใช้ในบ้านเรือน

นาย Andrea ได้กล่าวว่าการผู้ส่งออกจากอิตาลียังไม่ค่อยมีความคุ้นเคยกับตลาดของเม็กซิโก และผู้นำเข้าของเม็กซิโกจะทำการนำเข้าสินค้าของอิตาลีผ่านผู้ส่งออกสหรัฐฯ ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการขยายตลาดระหว่างทั้งสองประเทศซึ่งมีโอกาสการขยายตัวได้อีกมาก โดยเฉพาะในกลุ่มสินค้าที่มีคุณภาพสูง

แหล่งข้อมูล: The News (10/13/08)

Packaged food market growing 25%

อาหารสำเร็จรูปประเภทบรรจุห่อ เช่น นมถั่วเหลือง ผลิตภัณฑ์นมไร้แล้คตอส ชา เครื่องดื่มสุขภาพ ของทานเล่น อาหารสุขภาพ เป็นกลุ่มอาหารที่มียอดขายเพิ่มขึ้นในอัตราที่สูงโดยรวมร้อยละ 25

ในปี 2008 คาดว่าจะมียอดขายสำหรับอาหารบรรจุห่อ ทั้งปีจะมีมูลค่าประมาณ 43 พันล้านเหรียญฯ เพิ่มขึ้นจากปี 2007 ร้อยละ 16 และคาดว่า ตลาดของอาหารบรรจุห่อในเม็กซิโก จะมีมูลค่าประมาณ 65 พันล้านเหรียญฯ ภายในปี 2013
รายงานข่าวจาก The News (10/02/08) รายละเอียดของงานวิจัยตลาดจัดหาได้เพิ่มเติมจาก Euromonitor International

Monday, October 20, 2008

Private heathcare gaining ground in Central America

ประเทศกลุ่มอเมริกากลางส่งเสริมการท่องเที่ยวบริการสุขภาพ

รัฐบาลเอลซาวาดอร์ คอสตาริกา ฮอนดูรัส และกัวเตมาลา ได้เริ่มสนับสนุนการให้บริการด้านการแพทย์และสุขภาพให้แก่นักท่องเที่ยว ชาวต่างชาติ และประชาชนของกลุ่มประเทศเหล่านี้ที่อาศัยอยู่ในต่างประเทศ โดยเฉพาะสหรัฐอเมริกา ให้มีความสนใจเดินทางเข้าประเทศเหล่านี้ เพื่อการใช้บริการด้านสุขภาพ  โดยโรงพยาบาลเอกชนหลายแห่งได้พัฒนาการให้บริการในระดับมาตรฐานที่เป็นที่ยอมรับของชาวต่างชาติ  และให้ความสะดวกและค่าบริการที่มีราคาที่แข่งขัน

ยกตัวอย่างเช่น โรงพยายาล CIMA ในเมือง San Jose ประเทศคอสตาริกามีคนไข้หนึ่งในสามซึ่งเป็นชาวต่างชาติจากสหรัฐฯ แคนาดา และยุโรป  ปัจจัยสำคัญที่ช่วยดึงดูดคนไข้กลุ่มนี้มาใช้บริการในคอสตาริกา เป็นเพราะการเชื่อมโยงกับบริษัทประกันสุขภาพสำคัญๆ ของประเทศเหล่านั้น  และบริษัทประกันของละตินอเมริกาได้แนะนำให้ลูกค้าใช้บริการของโรงพยาบาลฯ  นอกจากนี้แล้ว นายแพทย์ในคอสตาริกามักทำงานทั้งในโรงพยาบาลของรัฐบาลและโรงพยาบาลเอกชน คนไข้ในระดับผู้มีรายได้สูงจึงนิยมไปใช้บริการที่สะดวกกว่าในโรงพยาบาลเอกชน  โดยประมาณร้อยละ 25 ของประชากรคอสตาริกาและฮอนดูรัสนิยมใช้บริการโรงพยาบาลเอกชน

ในบางแห่ง โรงพยาบาลของกลุ่มประเทศอเมริกากลาง มีความร่วมมือพิศษแลกเปลี่ยนการฝึกหัดแพทย์และพยาบาล กับโรงพยาบาลในสหรัฐฯ และได้รับความช่วยเหลือหรือการลงทุนในการซื้อเครื่องมืออุปกรณ์การแพทย์ที่ทันสมัยที่สุด

สำหรับประเทศฮอนดูรัส ได้เน้นการให้บริการด้านศัลยกรรมตกแต่ง และการผ่าตัดทั่วไป โดยค้นไข้ในสหรัฐฯ สามารถส่งประวัติสุขภาพ ผลตรวจสอบและคำถามต่างๆ ผ่านอีเมล์ไปยังแพทย์ในฮอนดูรัส เป็นการเอื้ออำนวยการโอนฝากไข้ระหว่างสหรัฐฯ และฮอนดูรัส  การเติบโตของภาคโรงพยาบาลในฮอนดูรัสส่วนหนึ่งมาจากการส่งเงินกลับประเทศของชาวฮอนดูรัสที่อพยพไปอยู่หรือทำงานในสหรัฐฯ เป็นผลช่วยให้โรงพยาบาลเอกชนเติบโดถึงสามเท่าตัวในรอบ 5 ปี ที่ผ่านมา

องค์การอานามัยโลก (WHO) ได้จัดอันดับการให้บริการด้านการแพทย์และสุขภาพของคอสตาริกา เป็นอันดับที่ 36 ของโลก สูงกว่าคุณภาพการให้บริการด้านการแพทย์และสุขภาพของสหรัฐฯ

แหล่งอ้างอิง: วารสาร Central America Today ฉบับ June/July 2008

หน้าเวปที่เกี่ยวข้อง:
Cima Hospital, San Jose, Costa Rica.
Centro Medico de Guatemala
Hospital de Diagnostico, El Salvador
CEMESA, Honduras
Clinica Biblica, Costa Rica
บทความเกี่ยวกับบริการสุขภาพในเอลซาวาดอร์ (ภาษาเสปน)

Meat export freezes

อุตสาหกรรมการผลิกและส่งออกเนื้อสัตว์ชลอการขยายตัว ต้นทุนการผลิตสูงขึ้น ตลาดส่งออกมีปัญหา

สภาเนื้อสัตว์แห่งเม็กซิโก Consejo Mexicano de la Carne -CMC ได้แถลงข่าวเมื่อวันที่ 14 ตุลาคม 2008 ว่าการขยายตัวของอุตสาหกรรมผู้ผลิตเนื้อสัตว์ของเม็กซิโกได้ชะลอตัวลง เนื่องจากราคาอาหารเลี้ยงสัตว์ที่ต้องนำเข้าจากต่างประเทศเพิ่มขึ้นมาก ทั้งนี้ อาหารเลี้ยงสัตว์มีสัดส่วนเป็นครึ่งหนึ่งของต้นทุนการผลิตเนื้อสัตว์โดยรวม นอกจากนี้แล้ว การส่งออกไปยังสหรัฐฯ เริ่มมีปัญหา เนื่องจากผู้นำเข้าสหรัฐฯ มีความสงสัยในมาตรฐานการผลิตของเม็กซิโก

ต้นทุนราคาอาหารเลี้ยงสัตว์ เพิ่มขึ้นโดยคาดว่าค่าขนส่งข้าวโพดจะเพิ่มขึ้นจากตันละ 15 เหรียญ เป็น 30 เหรียญฯ ต่อตัน ในปลายปี 2008 เนื่องจากราคาค่าน้ำมันที่เพิ่มขึ้น ประเทศเม็กซิโกนำเข้าข้าวโพดเพื่ออาหารสัตว์จากต่างประเทศทั้งหมด

ผู้ผลิตเนื้อสัตว์ของเม็กซิโกมีความสามารถผลิตได้ประมาณปีละ 1.6 ล้านตัน เพื่อการบริโภคภายในประเทศ และมีการส่งออกไปยังสหรัฐฯ ประมาณปีละ 20,000 ตัน

เมื่อวันที่ 4 กันยายน ผู้ส่งออกเนื้อสัตว์ไปยังสหรัฐฯ จำนวน 9 ราย จากผู้ส่งออกทั้งหมด 38 ราย ได้งดการส่งออกไปยังสหรัฐฯ เพื่อให้เจ้าหน้าที่ตรวจคุณภาพอาหารเข้าตรวจโรงงานอย่างเข้มงวด


แหล่งข้อมูล: The News (10/15/08) และ usatoday.com
งานวิจัยเกี่ยงกับอุตสาหกรรมเนื้อหมูของเม็กซิโก:
The Changing Structure of Pork Trade, Production and Processing in Mexico

Mexico phases out anti-dumping taxes for Chinese imports

เม็กซิโกยกเลิกภาษีป้องกันการทุ่มตลาดสินค้านำเข้าจากจีนบางรายการ

เมื่อวันที่ 14 ตุลาคม คศ. 2008 กระทรวงการต่างประเทศเม็กซิโกได้ประกาศอย่างเป็นทางการ การมีผลบังคับใช้ในวันที่ 14 ตุลาคม คศ. 2008 การยกเลิกมาตรการการป้องกันการทุ่มตลาดสำหรับสินค้าที่มีแหล่งกำเนิดจากประเทศจีน ที่ประเทศเม็กซิโกได้กำหนดมาตรการป้องกันการทุ่นตลาดเพื่อปกป้องกลุ่มสินค้าที่ได้รับผลกระทบจากการที่ประเทศจีนได้เข้าเป็นสมาชิกองค์การค้าโลก เมื่อปี 2001 จำนวนทั้งสิ้น 953 รายการ

ทั้งนี้ หมวดสินค้า 749 รายการเป็นการยกเลิกการเก็บภาษีพิเศษโดยสิ้นเชิง ให้มีการเก็บภาษีตามอัตราภาษีปกติ และสำหรับสินค้าอีก 204 รายการ ให้มีมาตรการปรับลดหย่อนภาษีเป็นระยะ โดยมีกำหนดระยะการปรับลดให้สิ้นสุดภายในวันที่ 11 ธันวาคม คศ. 2011 สำหรับกลุ่มสินค้าที่รัฐบาลเม็กซิโกถือว่ามีความอ่อนไหวพิเศษ เช่น กลุ่มสิ่งทอ กลุ่มอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าในบ้านเรือน หม้อแปลง ลิ้นปิดเปิดสำหรับเครื่องยนต์ บาหลาด ไฟเช็ค และดินสอ

อย่างไรก็ตาม กระทรวงเศรษฐกิจเม็กซิโกยังมิได้ประกาศกฏกระทรวงฯ เพื่อการยกเลิกมาตรการการป้องกันการทุ่นตลาดจากประเทศจีนจำนวน 953 รายการดังกล่าว และยังต้องมีการออกประกาศอย่างเป็นทางการ แจ้งรายละเดียดของความตกลงพิเศษที่ได้ลงนามไว้กับจีนเมื่อเดือนมิถุนายน คศ. 2008 รวมทั้งการประกาศกฏระเบียบชั่วคราวสำหรับมาตรการปรับลดหย่อนภาษีเป็นระยะ และยังต้องมีการประกาศยกเลิกมาตรการด้านศุลกากร 15 ประการ ที่เป็นขั้นตอนการดำเนินการของหน่วยงานศุลกากรที่ใช้ในการพิจารณาว่า สินค้าจีนที่นำเข้านั้นมีราคานำเข้าที่ไม่ได้รับการอุดหนุนและเป็นธรรม

ตัวอย่างภาษีป้องกันการทุ่มตลาดที่จะยกเลิกไป ได้แก่ สำหรับสินค้ารองเท้า ซึ่งเดิมมีภาษีป้องกันการทุ่มตลาดระหว่างร้อยละ 232 ถึง 1105 จะปรับลดลงเหลือเพียงร้อยละ 100

สำหรับด้ายปั่นและด้ายสำหรับถักทอ เดิมมีภาษีป้องกันร้อยละ 501 แต่การเจรจากับรัฐบาลจีนให้ลดลงเหลือร้อยละ 78 ภายในปี 2011 แต่จะเริ่มลดลงโดยทันทีเป็นภาษีร้อยละ 110 แล้วค่อย ๆ ปรับลดลงใน 3 ปีข้างหน้า

สำหรับดินสอเดิมมีภาษีป้องกันร้อยละ 451 ลดลงเป็นร้อยละ 350 จักรยานเดิมมีภาษีร้อยละ 144 ลดลงเป็นร้อยละ 80 เครื่องมืออุปกรณ์ ลดจากร้อยละ 312 เป็นร้อยละ 100 ของเล่น จากร้อยละ 351 เป็นร้อยละ 100 เครื่องใช้ไฟฟ้า จากภาษีร้อยละ 129 ลดเหลือร้อยละ 80

ภายหลังวันที่ 11 ธันวาคม คศ. 2011 สินค้านำเข้าจากประเทศจีนจะได้รับการปรับลดภาษี ให้เหลืออัตราภาษีตามปกติ สำหรับสินค้าที่มาจากประเทศที่ไม่ได้มีความตลกลงการค้าเสรีกับเม็กซิโก นั่นคือ ร้อยละ 35 สำหรับสินค้า จักรยาน ล็อค เครื่องมืออุปกรณ์ สิ่งทอ เครื่องนุ่งห่ม ของเล่น เครื่องไฟฟ้า สารเคมี รองเท้า เทียนไข ลิ้นปิดเปิด ไฟเช็ค ดินสอ บาหลาด และเครื่องยนต์

Monday, October 13, 2008

Contagion from US financial crisis: Mexican pesos loses value by 18%, Bolsa falls by 20%, Banxico will cut interest rates by 2.25%

ผลกระทบจากวิกฤตการณ์การเงินของสหรัฐฯ ต่อเศรษฐกิจเม็กซิโก

ค่าเงินเปโซ
ประธานาธิบดีเม็กซิโกนายคาลเดรอน ได้ประกาศแผนกระตุ้นภาวะเศรษฐกิจเพื่อรับมือผลกระทบจากวิกฤตการณ์การเงินของสหรัฐฯ เมื่อวันพฤหัสที่ 9 ตุลาคม 2008 โดยประกาศว่า ธนาคารกลางเม็กซิโกจะขายเงินสกุลดอลลาร์ที่รัฐบาลถือเป็นทุนสำรองระหว่างประเทศเพื่อรักษาระดับค่าเงินเปโซไม่ให้ตกต่ำเกินควร และได้ประกาศว่าในปี 2009 ธนาคารกลางจะทยอยลดอัตราคอกเบี้ยที่ได้เพิ่มขึ้นในปี 2008 เพื่อต่อสู้ภาวะเงินเฟ้อ ให้ทยอยลดลงจนลดได้ร้อยละ 2.25 ในปี 2009

รัฐบาลเม็กซิโกจะจัดสรรเงินงบประมาณเพื่อการลงทุนด้านการท่องเที่ยว พลังงาน และการก่อสร้างจำนวนประมาณ 65.1 พันล้านเปโซ และมาตรการอื่น ๆ ที่รัฐบาลเม็กซิโกจะดำเนินการเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ได้แก่การเพิ่มการลงทุนสร้างโรงกลั่นน้ำมันเพิ่มอีกหนึ่งแห่ง การเพิ่มการลงทุนในการศึกษา และการสนับสนุนการเงินให้แก่ธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม

สามวันภายหลังจากได้ประกาศนโยบาย ธนาคารกลางเม็กซิโกได้ประมูลขายเงินสกุลดอลลาร์ทั้งสิ้นประมาณร้อยละ 10 ของทุนสำรองระหว่างประเทศ เป็นจำนวน 8.9 พันล้านเหรียญฯ โดยในวันที่ 10 ตุลาคม เพียงวันเดียวได้สูญเสียเงินสกุลดอลลาร์จำนวน 6.4 พันล้านเหรียญฯ ทั้งนี้ ในสัปดาห์ที่ผ่านมา ค่าเงินเปโซได้ลดลงจากอัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 11 เปโซต่อเหรียญสหรัฐฯ ตกไปถึง 14 เปโซกว่าต่อเหรียญฯ แต่ในวันจันทร์ที่ 13 ตุลาคม ค่าเงินเปโซได้แข็งขึ้นที่อัตราแลกเปลี่ยนประมาณ 13 เปโซต่อหนึ่งเหรียญสหรัฐฯ

คาดว่าเศรษฐกิจเม็กซิโก ปี 2009 จะเติบโตเพียงร้อยละ 1.7
หน่วยวิจัยของธนาคารกลางเม็กซิโกได้ปรับตัวเลขคาดการณ์การเติบโตเศรษฐกิจเม็กซิโกอีกครั้ง โดยคาดว่าเศรษฐกิจในปีหน้าจะเติบโตเพียงร้อยละ 1.7 ลดลงจากอัตราร้อยละ 2.4 ที่เพิ่งปรับลดลงเป็นครั้งที่ 2 ทั้งนี้ ปัจจัยสำคัญเพิ่มเติม ได้แก่ ราคาน้ำมันโลกที่ลดลงต่ำกว่าเบเรลละ 80 เหรียญสหรัฐฯ ซึ่งเป็นราคาที่รัฐบาลเม็กซิโกได้ใช้อ้างอิงเพื่อประมาณการณ์งบประมาณค่าใช้จ่ายของรัฐบาลสำหรับปี 2009 แต่ปรากฏว่าวิกฤตการณ์การเงินสหรัฐฯ ได้มีผลผลักดันให้ราคาน้ำมันลดลง และโดยที่ร้อยละ 40 ของงบประมาณรัฐบาลมาจากรายได้จากการขายน้ำมัน เป็นผลให้รัฐบาลต้องตัดงบประมาณลงหลายพันล้านเปโซ ทั้งนี้ สำหรับทุกหนึ่งเหรียญสหรัฐฯ ของราคาน้ำมันโลกที่ลดลง จะส่งผลให้งบประมาณของเม็กซิโกหายไปประมาณหมื่นพันล้านเปโซ (งบประมาณรัฐบาลในปี 2006 เท่ากับ 209 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ)

อีกปัจจัยหนึ่งที่จะมีผลกระทบสำคัญต่อเศรษฐกิจปี 2009 ได้แก่ เงินส่งกลับจากต่างประเทศที่ลดลง โดยในเดือนสิงหาคม ธนาคารกลางเม็กซิโกได้เปิดเผยตัวเลขว่า การส่งเงินกลับจากต่างประเทศในเดือนสิงหาคม 2008 ลดลงร้อยละ 12.2 เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อน ทั้งนี้ ในปี 2007 แรงงานเม็กซิกันในสหรัฐฯ ได้ส่งเงินกลับเม็กซิโกทั้งหมดในปีนั้น จำนวน 27,000 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เป็นเงินตราต่างประเทศไหลเข้าอันดับสองรองจากการขายน้ำมัน

ตลาดหลักทรัพย์ BMV
ดัชนีของตลาดหลักทรัพย์แห่งเม็กซิโก (Bolsa Valores de Mexico-BMV) ได้ตกลงประมาณร้อยละ 20 ในสัปดาห์ที่ผ่านมา และได้มีการพักการซื้อขายหุ้นชั่วคราวของบริษัทที่ซื้อขายในตลาดฯ 30 บริษัท โดยคณะกรรมการบริหารตลาดฯ ได้สั่งให้บริษัทจำนวนนี้ แจ้งผลการดำเนินการเกี่ยวกับหนี้สินหรือหลักทรัพย์ที่เกี่ยวข้องกับเงินตราต่างประเทศ ทั้งนี้ บริษัทสำคัญ 2 แห่ง ได้แก่ บริษัทผู้ผลิตกระดาษที่ใหญ่ที่สุดของเม็กซิโก บริษัท Durango และบริษัท Comercial Mexicana ซึ่งเป็นเจ้าของเครือข่ายซุปเปอร์มาร์เก็ตทั่วเม็กซิโก ได้แจ้งสถานะการขอภาวะล้มละลาย เนื่องจากไม่สามารถชำระอัตราดอกเบี้ยของหนี้ที่มีอยู่ในเงินสกุลดอลลาร์เป็นจำนวนหลายล้านเหรียญสหรัฐฯ