1.2 ชื่อเป็นทางการ สาธารณรัฐปานามา (ภาษาสเปน: República de Panamá)
1.3 เมืองหลวง/เมืองสำคัญ
Panama City (เมืองหลวง) บริการการเงิน การค้าและการท่องเที่ยว
Colon (เมืองท่าและเขตการค้าเสรี) อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ผลิตภัณฑ์ยาและเภสัช เหล้า ยาสูบ เฟอร์นิเจอร์ เสื้อผ้า รองเท้า ของเด็กเล่น เครื่องประดับ
1.4 ขนาดพื้นที่ 75,420 ตารางเมตร (ใกล้เคียงกับประเทศไอร์แลนด์ ใหญ่กว่าสิวสเซอร์แลนด์)
1.5 ประชากร มีประชากร 3,232,000 คน
1.6 ทรัพยากรธรรมชาติ ทองแดง ป่าไม้มาฮอกกานี กุ้ง พลังงานไฟฟ้าจากน้ำ
1.7 ประวัติศาสตร์
ประเทศปานามาได้รับเอกราชจากประเทศสเปนในปี คศ. 1826 ได้รวมประเทศกับประเทศโคลัมเบีย เอควาดอร์และเวเนซูเอลาเป็นสาธารณรัฐแห่งโคลัมเบีย ซึ่งได้สลายสถานะในปี คศ. 1830 แต่ประเทศปานามายังคงเป็นส่วนหนึ่งของโคลัมเบีย ซึ่งต่อมาด้วยความช่วยเหลือจากสหรัฐฯ ได้รับอิสระสามารถแยกตัวออกจากโคลัมเบียได้ในปี คศ. 1903 แต่ในขณะเดียวกันได้ลงนามความตกลงกับสหรัฐฯ เพื่อการสร้างช่องเดินเรือปานามา โดยมอบสิทธิที่ดินเรียบสองชายฝั่งช่องเดินเรือให้แก่สหรัฐฯ จนกระทั่งปี คศ. 1999 สหรัฐฯ ได้คืนสิทธิทั้งที่ดินและช่องเดินเรือปานามาให้แก่ประเทศปานามา และในปี คศ. 2006 รัฐบาลปานามาได้เริ่มโครงการลงทุนเพื่อขยายความสามารถในการขนถ่ายของทางเดินเรือปานามาเพื่ออำนวยการผ่านของรือเดินทะเลที่มีขนาดใหญ่ขึ้น กำหนดจะเสร็จสิ้นในปี คศ. 2014-2015
1.8 เชื้อชาติ
ร้อยละ 70 เป็นพวกเมสติโซ (เผ่าพันธ์ผสมระหว่างผิวขาวชาวยุโรปและชนพื้นเมืองอินเดียน) เป็นพวกผิวดำ (เป็นประชากรที่อพยพมาจากหมู่เกาะอินดีสตะวันตก) ร้อยละ 14 ร้อยละ 10 เป็นชาวสเปน ส่วนที่เหลือเป็นชนพื้นเมืองอินเดียน ร้อยละ 6 ปัจจุบันชนพื้นเมืองอินเดียน แบ่งออกได้ 3 เผ่าใหญ่ ได้แก่ เผ่าคูนา (Cuna)อาศัยอยู่ในหมู่เกาะมูลาตาสในทะเลแคริบเบียน ชนเผ่ามีอำนาจในการปกครองตัวเอง แต่ยังคงอยู่ในอำนาจของรัฐบาลกลาง เผ่ากายมี (Guaymi)อาศัยอยู่ในจังหวัดชีรีกี จังหวัดโบกัสเดลโตโร และ จังหวัดเบรากวัส เผ่าโชโก (Choco)อาศัยอยู่ในป่าภายในจังหวัดดาเวียงทรัพยากรธรรมช
1.9 ศาสนา คริสแคทอลิค ร้อยละ 85
1.10 ภาษา ภาษาสเปน
1.11 ระบอบการปกครอง
ปานามาปกครองโดยระบอบประชาธิปไตยแบบสาธารณรัฐ มีประธานาธิบดีเป็นประมุข ที่มาจากเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน ฝ่ายนิติบัญญัติ เป็นระบบสภาเดียว คือ สภานิติบัญญัติแห่งชาต ประกอบด้วย สมาชิก 72 คน ที่มาจากการเลือกตั้ง มีวาระดำรงตำแหน่ง 5 ปี ฝ่ายบริหาร ได้แก่ ประธานาธิบดี เป็นประมุขและหัวหน้ารัฐบาล มาจากการเลือกตั้งดำรงตำแหน่งวาระ 5 ปี ประธานาธิบดีคนปัจจุบันได้แก่ นาย Ricardo MARTINELLI Berrocal ได้รับการเลือกตั้ง เมื่อวันที่ 1 มิถุนายน 2552 คณะรัฐมนตรีจะได้รับการแต่งตั้งโดยประธานาธิบดี ฝ่ายตุลาการ ผู้พิพากษาการศาลสูงสุดมาจากการเสนอชื่อของประธานาธิบดี และดำรงตำแหน่งวาระละ 10 ปี พรรคการเมืองที่สำคัญ ๆ มี 3 พรรค
ปานามาแบ่งออกเขตการปกครองออกเป็น 9 จังหวัด (provincias - provincias) และ 5 ดินแดน (indigenous territories - comarcas indígenas) และพื้นที่พิเศษ 1 แห่ง
1.12 ระบบคมนาคมขนส่งภายในประเทศ
มีโครงสร้างถนนรวม 11,978 กิโลเมตร ทางเดินรถไฟ 76 กิโลเมตร สนามบิน 118 แห่ง ท่าเฮลิปอร์ท 3 แห่ง ท่าเรือ 3 แห่ง และทางเดินน้ำ 800 กิโลเมตร
ปานามาเป็นประเทศที่มีเรือพาณิชย์เดินทะเลจดทะเบียนในประเทศเป็นอันดับหนึ่งของโลก จำนวนทั้งหมด 6,323 ลำ โดยเป็นเรือพาณิชย์ชาติ 5,394 ลำ ซึ่งในจำนวนนั้น มีเรือเดินทะเลของไทยจำนวน 10 ลำ ของสิงคโปร์ 100 ลำ อินโดนีเซีย 31 ลำ เวียดนาม 30 ลำ มาเลเซีย 12 ฟิลิปปินส์ 7 ฮ่องกง 130 ลำ จีน 532 ลำ และ ญี่ปุ่น 2335
2. ข้อมูลพื้นฐานเศรษฐกิจโดยทั่วไป
2.1 ข้อมูลพื้นฐานของประเทศปานามา
ในปี 2553 ปานามามีผลผลิตรวมของประเทศมูลค่า 4.482 หมื่นล้านเหรียญสหรัฐฯ รายได้เฉลี่ยต่อหัว 12,397 เหรียญฯ แต่มีประชากรยากจนที่มีรายได้ต่ำกว่ามาตรฐานการยังชีพขั้นนต่ำประมาณร้อยละ 29 อัตราการเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจในปี 2553 ร้อยละ 7.5 และอัตราเงินเฟ้อในปีเดียวกันร้อยละ 2.4
เศรษฐกิจของประเทศปานามาได้รับผลกระทบจากวิกฤตการณ์การเงินของสหรัฐฯ ค่อนข้างจำกัด เนื่องจากการลงทุนขยายการขุดคลองปานามา ทำให้มีการก่อสร้างและการขยายด้านการบิรการมาก องค์การ Panama Economy Insight ได้พยากรณ์ภาวะเศรษฐกิจของปานามาในปี 2554 ว่าจะมีการขยายตัวในอัตราร้อยละ 9.2 ส่วนปี 2555 และ 2556 จะมีอัตราการขยายตัวในอัตราร้อยละ 13 และ 11 ตามลำดับ
ในปลายปี 2553 ประเทศปานามามีเงินทุนสำรองฯ มูลค่า 3.525 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ
2.3 โครงสร้างการผลิตภายในประเทศ
ภาคเศรษฐกิจที่มีความสำคัญที่สุดของปานามา ได้แก่ ภาคบริการ ซึ่งมีสัดส่วนประมาณสามในสี่ของผลผลิตรวมของประเทศ โดยธุรกิจบริการที่สำคัญ ได้แก่ บริการคลองเดินเรือปานามา บริการธนาคาร บริการเขตพื้นที่การค้าพิเศษปลอดภาษีคอโลน (Colon Free Trade Zone) บรบริการประกันภัย บริการการท่าขนถ่ายคอนเทเนอร์ บริการทะเบียนเรือ บริการท่องเที่ยว
ภาคเศรษฐกิจที่มีความสำคัญรองลงมาได้แก่ ภาคอุตสาหกรรมที่มีสัดส่วนในผลผลิตรวมประมาณร้อยละ 18 โดยมีกิจกรรมอุตสาหกรรมที่สำคัญ ได้แก่ การก่อสร้าง การผลิตเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ การผลิตซีเม็นต์และวัสดุก่อสร้าง และการกลั่นน้ำตาล
ภาคเกษตรมีสัดส่วนในผลผลิตรวมร้อยละ 15 มีสินค้าเกษตรที่สำคัญได้แก่ กล้วย ข้าว ข้าวโพด กาแฟ น้ำตาล ผัก ปศุสัตว์ และ กุ้ง
2.4 ข้อมูลด้านการลงทุนในประเทศ
การลงทุนจากต่างประเทศในปานามาในปี 2553 มีมูลค่าประมาณ 2.362 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งได้เพิ่มขึ้นจากปี 2552 ในอัตราร้อยละ 33 ในปี 2553 ได้มีการลงทุนเพื่อทำการขยายคลองปานามาในมูลค่า 5.2 พันล้านเหรียญสหรัฐ นอกจากนี้แล้ว รัฐบาลของปานามาจะเริ่มการก่อสร้างรถไฟใต้ดินสายแรกของปานามาในปี 2554 โดยได้จัดสรรเงินลงทุนจำนวน 1.45 ล้านเหรียญสำหรับปีนั้น และจะมีการก่อสร้างเหมืองทองแดงในจำนวนเงินลงทุน 4.320 พันล้านเหรียญฯ และจะมีการปรับปรุงโครงสร้างการผลิตไฟฟ้าโดยมีการลงทุนเป็นระยะในรอบ 6 ปีข้างหน้า นอกจากนี้แล้ว สมาคมโรงแรมแห่งปานามาได้คาดการณ์ว่า จะมีการลงทุนในด้านโรงแรมระหว่างปี 2553-2555 มูลค่า 2.387 ล้านเหรียญ
3. ข้อมูลการค้าระหว่างประเทศปานามา
3.1 ภาพรวมสถานการณ์ทางการค้าของประเทศปานามา
สำหรับการค้าระหว่างประเทศ ปานามาได้มีการส่งออกในปี 2553 มูลค่า 710.79 ล้านเหรียญฯ มีสินค้าส่งออกสำคัญได้แก่ กล้วย กุ้ง น้ำตาล กาแฟ และเสื้อผ้าสำเร็จรูป ประเทศที่ส่งออกสำคัญคือ สหรัฐฯ เนเธอร์แลนด์ อังกฤษ คอสตาริกา สเปน ไต้หวัน สวีเดน และประเทศ
ส่วนสินค้าที่ประเทศปานามานำเข้าที่สำคัญได้แก่ น้ำมันและเชื้อเพลิง สินค้าทุน สินค้าอาหาร สินค้าบริโภค และเคมีภัณฑ์ โดยในปี 2553 มีมูลค่าการนำเข้ารวม 8.9 พันล้านเหรียญฯ ประเทศแหล่งนำเข้าที่สำคัญได้แก่ สหรัฐฯ ประเทศคอสตาริกา ประเทศจีน และประเทศญี่ปุ่น
3.2 นโยบาย/มาตรการทางการค้า ทั้งภาษีและไม่ใช่ภาษี
มีภาษีมูลค่าเพิ่มร้อยละ 5 โดยยกเว้นสำหรับสินค้ายาและเภสัช อาหาร และคุรุภัณฑ์ ในด้านการเก็บภาษีนำเข้า เมื่อเทียบกับประเทศอื่นๆ ในภูมิภาคละตินอเมริกาแล้ว ปานามาเป็นประเทศที่เก็บภาษีนำเข้าที่ต่ำที่สุด เฉลี่ยแล้วประมาณร้อยละ 9 นอกจากนี้แล้ว ปานามายังได้แก้ไขปรับปรุงมาตรการทางการค้าที่ไม่ใช่ภาษี เช่น ผู้นำเข้าไม่ต้องขอใบอนุญาตการนำเข้า เป็นต้น ปานามามีการอุดหนุนการส่งออก 3 ประเภท คือ Processing Zones (ZPE) Tax Credit Certificate (CAT) และ Official National Industry Registry (ROIN)
3.3 ความร่วมมือทางการค้ากับต่างประเทศ
ปานามาได้เข้าเป็นสมาชิกองค์การค้าโลกเมื่อปี คศ. 1997 และมีความตกลงการค้ากับสหรัฐฯ เป็นพิเศษ มีประวัติดั้งเดิมมาตั้งแต่ปี คศ. 1982 เพื่อการพัฒนาคลองเดินเรือ ในปี คศ. 2007 ปานามาได้ลงนามในความตกลงเขตการค้าเสรีกับสหรัฐฯ แต่ยังไม่ได้ผลปฏิบัติ นอกจากสหรัฐฯ แล้ว ปานามาได้ลงนามในความตกลงเขตการค้าเสรีกับกลุ่มประเทศอเมริกากลาง (2010) กับไต้หวัน (2003) สิงค์โปร์ (2006) ชิลี (2006) และแคนาดา (2010) อีกทั้งยังมีความตกลงให้สิทธิพิเศษทางการค้าสำหรับประเทศเม็กซิโก (1985) โคลัมเบีย (1993) และสาธารณรัฐดอมินิกัน (1985)
4. ข้อมูลทางการค้ากับประเทศไทย
4.1 ภาพรวมสถานการณ์/ ความสัมพันธ์ทางการค้ากับไทย
ไทยและปานามามีมูลค่าการค้าระหว่างกันในปี 2553 มูลค่า 212.5 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดลงจากปี 2552 ร้อยละ 30 โดยการส่งออกคิดเป็นมูลค่า 223 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และมูลค่าการนาเข้า 10.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ และไทยเป็นฝ่ายเกินดุลการค้ากับปานามา 212.4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ
4.2 สินค้าหลักที่ไทยส่งออกไปยังประเทศปานามา และสินค้าหลักที่ไทยนำเข้าจากปานามา
ในปี 2553 การส่งออกมีมูลค่า 223.0 ล้านเหรียญสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นจากปี 2552 ร้อยละ 63.97 สินค้าส่งออกสาคัญของไทยไปยังปานามา ได้แก่ รถยนต์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ, เครื่องรับวิทยุโทรทัศน์และส่วนประกอบ, เสื้อผ้าสาเร็จรูป, รองเท้าและชิ้นส่วน, อาหารทะเลกระป๋องและแปรรูป, ผลิตภัณฑ์พลาสติก, เครื่องซักผ้า เครื่องซักแห้งและส่วนประกอบเคมีภัณฑ์, ตู้เย็น ตู้แช่แข็งและส่วนประกอบ, และผลิตภัณฑ์ยาง
ในปี 2553 ไทยนำเข้าสินค้าจากปานามามูลค่า 10.6 ล้านเหรียญสหรัฐฯ ลดจากจากปี 2552 ร้อยละ 52 สินค้านาเข้าที่สาคัญ ได้แก่ เรือและสิ่งก่อสร้างลอยน้า, เหล็ก เหล็กกล้าและผลิตภัณฑ์, สัตว์น้าสด แช่เย็น แช่แข็ง แปรรูปและกึ่งสาเร็จรูป, เคมีภัณฑ์, กาแฟ ชา เครื่องเทศ, ผลิตภัณฑ์เวชกรรมและเภสัชกรรมผลิตภัณฑ์สิ่งทอและอื่นๆ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ, สินแร่โลหะอื่นๆ เศษโลหะและผลิตภัณฑ์ และ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ
4.3 สินค้าและบริการที่มีศักยภาพของไทยสำหรับประเทศปานามา
นอกจากสินค้าที่ส่งออกไปประเทศปานามาดั้งเดิม ที่มีโอกาสการขยายตัวได้เพิ่มขึ้น ตามรายการที่กล่าวข้างต้นแล้ว สินค้าส่งออกใหม่ที่ผู้ส่งออกไทยควรพิจารณาการร่วมลงทุนในด้านบริการ เช่น ในด้านการขนส่งทางเรือ และด้านการก่อสร้างหมู่บ้านจัดสรร โรงแรม และโรงพยาบาล เป็นต้น ในด้านการนำเข้าไทยอาจจะพิจารณาการนำเข้าแร่ทองแดงจากเหมืองที่กำลังเปิดใหม่ใน 1-2 ปีข้างหน้า
4.4 ข้อตกลง/ความร่วมมือทางการค้ากับประเทศไทย
ขณะนี้ไทยยังไม่มีความตกลงทางการค้ากับปานามา แต่ได้สถาปนาความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันเมื่อวันที่ 20 สิงหาคม 2525 โดยรัฐบาลไทยได้มอบหมายให้เอกอัครราชทูต ณ กรุงเม็กซิโก มีอาณาเขตครอบคลุมปานามา และแต่งตั้งนาย Carlos Alberto Janon F. เป็นกงสุลใหญ่กิตติมศักดิ์ประจาปานามา และปานามาได้เปิดสถานเอกอัครราชทูตประจาประเทศไทยเมื่อวันที่ 6 กันยายน 2538
4.5 ปัญหา/อุปสรรค/ประเด็นทางการค้าและการลงทุนกับไทย
นักธุรกิจไทยอาจจะไม่สนใจทำธุรกิจกับปานามาเนื่องจากความห่างไกลในระยะทางการเดินทางขนส่ง อีกทั้งปานามายังเป็นประเทศที่มีตลาดภายในที่จำกัด แต่หากพิจารณประเทศเพื่อนบ้านอื่น ๆ เช่น ไต้หวัน สิงคโปร์ มาเลเซีย ต่างได้ไปตั้งกิจการในปานามาเป็นหลักแหล่งกันแล้ว โดยนักลงทุนของประเทศเหล่านี้ เล็งเห็นความสะดวกในการดำเนินกิจการในเขตเศรษฐกิจพิเศษของปานามาทีเอื้ออำนวยทั้งการนำเข้า และการส่งออกต่อไปยังประเทศอื่น ๆ ในภูมิภาค นอกจากนี้แล้ว ยังไม่มีปัญหาข้อจำกัดด้านภาษาในการติดต่อโดยมีการใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาทางราชการ การเจรจาความตกลงคุ้มครองการลงทุนและการยกเว้นการเก็บภาษีซ้อนเป็นพื้นฐานที่ต้องปูเอาไว้เพื่อให้นักลงทุนไทยมีความสนใจบ้าง การเจรจาการค้าเสรีกับปานามาก็น่าจะเป็นสิ่งที่ง่ายกว่าการเจรจาการค้าเสรีกับประเทศอื่น ๆ ในกลุ่มละตินอเมริกา
4.6 ลู่ทางการค้าและการลงทุน
ผู้ส่งออกและนักลงทุนไทยควรพิจารณาการร่วมลงทุนในด้านบริการ เช่น ในด้านการขนส่งทางเรือ และด้านการก่อสร้างหมู่บ้านจัดสรร โรงแรม และโรงพยาบาล เป็นต้น ในด้านการนำเข้าไทยอาจจะพิจารณาการนำเข้าแร่ทองแดงจากเหมืองที่กำลังเปิดใหม่ใน 1-2 ปีข้างหน้า
5. บริษัท 10 อันดับแรก
บริษัทสำคัญ 10 อันดับแรกของปานามาได้แก่ บริษัท McDermott International (ที่ปรึกษาก่อสร้าง), Panmaco (ผลิตเบียร์), Wilbros Group (ที่ปรึกษาก่อสร้าง), BLADEX (ธนาคารส่งเสริมการส่งออก), Excony Interamerica (), Aguas de Panama (ผลิตน้ำ), Bahia Las Minas (เหมือง), Banaprest (ธนาคาร), Banco Continental (ธนาคาร), Banco Iboamerica (ธนาคาร)
6. การวิเคราะห์แนวโน้ม
มีศักยภาพสูงกว่าประเทศอื่นในภูมิภาคเนื่องจากการก่อสร้างขยายคลองปานามา
-เป็นทำเลที่ดีสำหรับเป็นศูนย์กลางการส่งออกต่อไปยังประเทศในภูมิภาคอเมริกากลางและอเมริกาใต้
-รถยนต์และเครื่องจักร
-บริการด้านการเดินเรือ
-บริการโรงแรม
-บริการด้านสุขภาพและแพทย์
-บริการที่พักอยู่อาศัย
7. SWOT Analysis
Strength
-เป็นทำเลที่ดีสำหรับเป็นศูนย์กลางการส่งออกต่อไปยังประเทศในภูมิภาคอเมริกากลางและอเมริกาใต้
-ระบบการค้าเสรีและส่งเสริมการส่งออก
-ใช้ภาษาอังกฤษในภูมิภาคที่พูดภาษาสเปน
Weakness
-ห่างไกลจากประเทศไทย
-ตลาดภายในประเทศไม่ใหญ่
Opportunities
-การขยายคลองปานามาให้เรือขนาดใหญ่ขึ้นสามารถเดินผ่านได้
Threat
-เศรษฐกิจพึ่งพาการส่งออกและการบริการคลองปานามาเป็นส่วนใหญ่
8. รายชื่อ ที่ติดต่อหน่วยราชการ
8.1. กระทรวงการค้าและอุตสาหกรรมปานามา
Ministerio de Comercio e Industria
Plaza Edison, Sector El Paical, Pisos 2 y 3..
Tel: (507) 560-0600, (507) 560-0700. Fax: (507) 261-1942.
8.2. กระทรวงการต่างประเทศปานามา
Ministerio de Relaciones Exteriores, San Felipe. Calle 3. Palacio Bolívar.
Ciudad de Panamá. Zona Postal San Felipe, Panamá 4
Tel: (507) 511-4100 / (507) 511-4200
Fax: (507) 511-4022
8.3. องค์กรการท่องเที่ยวปานามา
Autoridad de Tourismo Panama
Samuel Lewis Ave. and Gerardo Ortego Str., Central Bldg., Panama City
Tel: (507) 526-7000
9. รายชื่อ ที่ติดต่อหน่วยงานส่งเสริมการค้าของประเทศนั้นๆ ในประเทศไทย
Embassy of Panama
1168/37 Lumpini Tower Building, 16th Floor
Tungmahamek, Sathorn,
Bangkok 10120, Thailand
No comments:
Post a Comment