Google Website Translator

Friday, November 21, 2008

Mexican companies lose on derivatives

ธรุกิจสำคัญของเม็กซิโกประสบปัญหาการเงินเนื่องจากสัญญาตราสารอนุพันธ์ (derivative) ที่ผูกกับอัตราแลกเปลี่ยน

กรณีเครือธุรกิจขายปลีก บริษัท Controladora Comercial Mexicana: มูลค่าหนี้้ตราสารอนุพันธ์ประมาณ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ


เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2008 ตลาดหลักทรัพย์เม็กซิโก (BMV) ได้ประกาศระงับการซื้อขายหุ้น ของบริษัท Controladora Comercial Mexicana เจ้าของเครือข่ายซุปเปอร์มาร์เก็ตสำคัญของเม็กซิโก เนื่องจากการเทขายหุ้นของบริษัทฯ อันเป็นผลให้ราคาหุ้นลดเกือบครึ่งหนึ่งของมูลค่า หลังจากบริษัทได้แจ้งข่าวหนี้เงินสกุลดอลลาร์ที่ได้ขยายตัวอย่างฉับพลันหลังจากค่าเงินเปโซตก อันเป็นผลให้บริษัทฯ ต้องขอสถานะล้มละลาย ต่อศาลแพ่งในเม็กซิโก เพื่อขอรับการป้องกันการไล่หนี้จากเจ้าหนี้ นั่นคือ บริษัทที่เป็นคู่ค้าสัญญาตราสารอนุพันธ์ ซึ่งมีบริษัท JP Morgan, Barclays Plc, Golman Sach Groups Inc, และ Merill Lynch จากสหรัฐฯ และบริษัทการเงิน Santander และ Banamex ของเม็กซิโก โดยบริษัทการเงินของสหรัฐฯ ทั้งหมดได้ยื่นฟ้องบริษัท Comercial Mexicana ว่าได้ผิดสัญญาตราสารอนุพันธ์

บริษัท Comercial Mexicana ได้แจ้งว่าสัญญาตราสารอนุพันธ์ที่ผูกกับอัตราแลกเปลี่ยนเงินดอลลาร์ ซึ่งบริษัทฯ ได้จัดทำขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงจากมูลค่าของหนี้สินที่มีอยู่ในเงินสกุลดอลลาร์ ได้มีผลทำให้บริษัทฯ มีหนี้เพิ่มอย่างฉับพลันจำนวนประมาณ 1 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ เนื่องจากบริษัทฯ ได้ผูกสัญญาตราสารอนุพันธ์ไว้กับอัตราแลกเปลี่ยนเงินเปโซที่ประมาณ 11 เปโซต่อเหรียญ แต่ในขณะนี้ ค่าเงินเปโซได้ตกไปที่ประมาณ 13 เปโซต่อเหรียญ

ศาลเม็กซิโกได้ปฏิเสธการอนุมัติสถานะล้มละลายแก่บรษัท Comercial Mexicana เป็น 2 ครั้งในเดือนตุลาคม แต่บริษัทฯ ยืนยันยื่นขออีกเป็นครั้งที่สามเมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน และล่าสุดองค์กรรัฐบาลของเม็กซิโก อันได้แก่ สถาบันการเงินเพื่อการพัฒนา (Nacional Financiera-Nafin) ได้ให้ความช่วยเหลือด้วยการอนุมัติวงเงินกู้จำนวน 3 พันล้านเปโซ เป็นเงินหมุนเวียนเพื่อการจ่าย supplier

อย่างไรก็ตาม บริษัท Comercial Mexicana ยังต้องแก้ปัญหาหนี้ที่เกิดขึ้นจากสัญญาตราสารอนุพันธ์จำนวน 1 พันล้านเหรียญฯ โดยบริษัทฯ ได้ว่าจ้างให้บริษัท Credit Suisse Mexico เป็นผู้ดำเนินการการปรับโครงสร้่างหนี้ โดยบริษัทฯ ได้ให้ข่าวว่าจะไม่ขายหรือรวมบริษัท (sold or merged) เนื่อจากบริษัท Comercial Mexicana จะสามารถระดมเงินเพื่อจ่ายหนี้ได้จากการขายอสังหริมทรัพย์ที่มีอยู่ ซึ่งมีมูลค่ารวมอยู่ประมาณ 3 พันล้านเหรียญฯ

บริษัท Controladora Comercial Mexicana ได้ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี 1944 ปัจจุบันมีลูกจ้างจำนวน 40,480 คน โดยมีเครือข่ายจำหน่ายสินค้าในยี่ห้อต่าง ๆ เช่น Comercial Mexicana, City Market, Mega, Bodega CM, Sumesa และ Alprecio ทั้งหมด 214 แห่ง รวมทั้งร้านอาหารยี่ห้อ California อีก 71 แห่ง และมีหุ้นร่วมทุนกับบริษัท Costco ของสหรัฐฯ เป็นเจ้าของยี่ห้อ Costco ในเม็กซิโก ยอดขายรวมของธุรกิจในเครือของกลุ่ม Controladora Comercial Mexicana มีมูลค่า 52.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยยอดขายสำหรับไตรมาศ 3 ปี 2008 มีมูลค่า 13.9 พันล้านเหรียญฯ

กรณีผู้ผลิตแก้ว บริษัท Vitro: มูลค่าหนี้ตราสารอนุพันธ์ประมาณ 267 ล้านเหรียญ
บริษัท Vitro เป็นผู้ผลิตขวดแก้วที่ใหญ่ที่สุดในเม็กซิโก ก่อตั้งเมื่อปี 1900 โดยมีศูนย์กลางการผลิตที่รัฐ Monterrey มียอดขายในปี 2007 มูลค่า 2.6 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ และมีลูกจ้างจำนวน 24,442 คน มีฐานการผลิตใน 10 ประเทศ และตลาดส่งออกมากกว่า 50 ประเทศ

ในช่วงไตรมาสที่ 2 ปี 2008 บริษัท Vitro ได้ซื้อตราสารอนุพันธ์เพื่อป้องกันความเสี่ยงจากราคาแก๊ซเพิ่ม ค่าเงินเปโซ และอัตราดอกเบี้ย แต่เนื่องจากราคาแก๊ซได้ลดลงแทนที่จะเพิ่มขึ้น ส่งผลให้บริษัทฯ ต้องเสียค่าต่างเรียก (margin call) จำนวน 267 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ ซึ่งมีผลกระทบต่อการหมุนเวียนเงินสดเพื่อการดำเนินกิจกรรม และได้ส่งผลให้ราคาหุ้นและราคาพันธบัตรซึ่งบริษัท Vitro เสนอขายในตลาดหลักทรพัย์ที่เม็กซิโกและนิวยอร์คตกต่ำจนเป็นเหตุให้ Standard & Poor's ลดระดับหุ้นบริษัท Vitro เป็นระดับ B ซึ่งเป็นระดับต่ำกว่าหุ้นที่ได้รับการแนะนำน่าลงทุน 4 ระดับ
ในวันที่ 5 พฤศจิกายน 2008 บริษัท Vitro ได้ประกาศ การนำอสิงหริมทรัพย์เข้ากองทุนเป็นหลักทรัพย์ค้ำประกัน กับธนาคาร Bancomext เพื่อเปิดวงเงินกู้เสริมเงินทุนหมุนเวียน และนอกจากนี้ ยังได้รับอนุมัติเงินกู้จำนวน 100 ล้านเหรียญฯ จากธนาคารเพื่อการพัฒนา(Nafin) โดยกลุ่มการเงิน Blackstone เป็นผู้ให้คำปรึกษาในการแก้สัญญาตราสารอนุพันธ์และการปรับโครงสร้างการเงิน

กรณีผู้ผลิตและจำหน่ายแป้งสาลี และทอร์ติยา บริษัท Gruma: สูญเสีย 291 พันล้านเหรียญ
บริษัท Gruma ได้ดำเนินกิจการผลิตแป้งสาลีและทอร์ติยาซึ่งเป็นอาหารหลักของชาวเม็กซิกันมาตั้งแต่ปี 1949 ในปัจจุบันมีโรงงานทั้งหมด 88 แห่ง ลูกจ้างจำนวน 17,000 คน จำหน่ายแป้งสาลี ทอร์ติยา และผลิตภัณ์ข้าวโพดในตลาดต่างประเทศมากกว่า 50 ประเทศ โดยในปี 2006 ได้มียอดขายรวมมูลค่า 2.8 พันล้านเหรียญสหรัฐฯ

เมื่อต้นเดือนตุลาคม 2008 ตลาดหลักทรัพย์เม็กซิโก (BMV) ได้หยุดพักการซื้อขายหุ้นบริษัท Gruma เป็นเวลา 2 สัปดาห์ แต่ราคาหุ้นของบริษัทฯ ได้ตกงมากกว่าร้อยละ 50 เมื่อเปิดการซื้อขาย โดยบริษัทฯ ได้แจ้งว่าฐานะอนุพันธ์มีมูลค่าติดลบอยู่จำนวน 788 พันล้านเหรียญฯ เป็นผลให้ผลการดำเนินการในไตรมาสสามมียอดขาดทุนจำนวน 1.76 พันล้านเปโซ แต่คู่สัญญาอนุพันธ์ได้ยื่นกำหนดเรียก margin call ไปจนถึงวันที่ 24 พฤศจิกายน โดยบรษัทฯ ต้องจ่ายจำนวนที่ติดไว้ตามสัญญา หรือจ่ายเงินต่อสัญญาเพิ่มอีก 276 ล้านเหรียญสหรัญฯ

กรณีผู้ผลิตกระดาษ บรษัท Durango แจ้งสถานะล้มละลาย
บริษัท Corporacion Durango ได้ยื่นขอสถานะล้มละลายในสหรัฐฯ เมื่อวันที่ 7ตุลาคม 2008 เพื่อขอการป้องกันจากเจ้าหนี้เพื่อการปรับโครงสร้างหนี้ที่มีทั้งหมด 1.7 พันล้านเหรียญ โดยมีพันธะค่าดอกเบี้ยเงินกู้จำนวน 26.5 ล้านเหรียญฯ ซึ่งไม่สามารถจ่ายเจ้าหนี้ได้ เนื่องจากภาวะค่าไฟฟ้าและน้ำมันสูงขึ้น ค่าเงินเปโซตก ได้ส่งผลให้ต้นทุนการผลิตเพิ่มขึ้น รวมกับตลาดที่หดตัวเนื่องจากภาวะเศรษฐกิจหดตัวและการแข็งขันที่เพิ่มขึ้น

ทนายความของบริษัท Durango ได้ให้ข่าวว่า บริษัทฯเคยขอสถานะล้มละลายในปี 2004 เพื่อปรับโครงสร้างหนี้มาแล้วหนึ่งครั้ง และคาดว่าการปรับหนี้ครั้งนี้ คงไม่ประสบปัญหามากเนื่องจากบริษัทฯ สามารถขายกิจการ ย่อยบางแห่งที่มีอยู่ในสหรัฐฯ

บริษัท Durango ได้เริ่มกิจกรรมการผลิตกระดาษสำหรับใช้ในอุตสาหกรรม เมื่อปี 1982 มีโรงงานผลิตกระดาษที่สหรัฐฯ เม็กซิโก และในกลุ่มประเทศละตินอเมริกา เป็นผู้ผลิตกระดาษอุตสาหกรรมที่สำคัญในทวีปอเมริกา

บริษัท Compania Minera Autlan จ่าย 40 ล้านเพื่อยกเกสัญญาอนุพันธ์ดอลลาร์ และแก๊ซ
บริษัท Autlan เป็นผู้ผลิตแร่ manganese สำคัญในภูมิภาคอเมริกาเหนือ ได้แจ้งข่าวให้ตลาดหลักทรัพย์เม็กซิโกว่า ได้จ่ายค่ายกเลิกสัญญาอนุพันธ์ที่ผูกไว้กับอัตราแลกเปลี่ยนและราคาแก๊ซเป็นจำนวน 40 ล้านเหรียญฯ ซึ่งจะมีผลทำให้กำไรบริษัทฯ ในไตรมาส 4 แสดงผลขาดทุนจำนวน 25 ล้านเหรียญฯ

ตามรายงานข่าว "Rescata el Gobierno a empresas, da crédito a Comercial Mexicana por 3 mil mdp" ได้แจ้งรายชื่อบริษัทอื่น ๆ ที่ได้ประสบปัญหาการเงินเนื่องจากค่าเงินเปโซตก และได้รับความช่วยเหลือจากสถาบันการเงินเพื่อการพัฒนา ได้แก่ บริษัท Cemex, COPPAL, Arrendadora Banregio, Soriana และ Arrendadora Unifir

แหล่งข่าว: The News, Bloomberg, OEM, Businessweek, Google Finance, และหน้าเวปของบริษัทต่าง ๆ ตามที่ได้ใส่ link ไว้

ข่าวอื่น ๆ เกี่ยวกับค่าเสียหายที่เกิดจากตราสารอนุพันธ์:
http://www.businessworld.in/index.php/Markets-Finance/As-Derivative-Deals.html
http://www.forbes.com/reuters/feeds/reuters/2008/10/22/2008-10-22T185442Z_01_N22377215_RTRIDST_0_MEXICO-DERIVATIVES.html

No comments: