Google Website Translator

Wednesday, May 13, 2009

Economic and political consequences of swine flu epidemic

ผลกระทบของการระบาดของเชื้อไข้หวัด N1H1

รัฐบาลเม็กซิโกได้สั่งปิดโรงเรียน ที่ทำงาน ธุรกิจร้านค้า และแหล่งบรรเทิงสาธารณะ จากวันที่ 28 เมษายนถึงวันที่ 6 พฤษภาคม เพื่อป้องกันการแพร่กระจายของเชื้อไข้หวัด N1H1 ย่อมต้องมีผลกระทบต่อภาวะเศรษฐกิจของเม็กซิโก ซึ่งกำลังประสบปัญหาเศรษฐกิจชลอตัวเนื่องจากวิกฤตการณ์การเงินอยู่แล้ว โดยมีนักเศรษฐศาสตร์ประเมินว่า รายได้ประชาชาติโดยรวมในปีนี้จะหายไปร้อยละ 0.3 เนื่องจา กิจกรรมเศรษฐกิจในเมืองเม็กซิโกซิตี้ และรัฐเม็กซิโก มีมูลค่าสัดส่วนของรายได้ประชาชาติร้อยละ 30 มีนักเศรษฐศาสตร์เม็กซิกันประเมินว่า ประมาณ 0.5 พันล้านเหรียญต่อวัน การปิดทำการหนึ่งสัปดาห์อาจมีผลเสียหายต่อเศรษฐกิจโดยรวมประมาณ 3.5 พันล้านเหรียญฯ นั่นคือ ร้อยละ 0.3 ของรายได้ประชาชาติ นั้นเอง

ผลเสียหายที่เห็นได้ชัดโดยไม่ต้องพิจารณาตัวเลขเลย ได้แก่ การที่ประเทศต่าง ๆ ยกเลิกเที่ยวบินที่บินเข้าเม็กซิโกในช่วงระยะปลายเดือนเมษายน กิจการการท่องเที่ยวทั่วประเทศได้รับผลกระทบอย่างเห็นได้ชัด นอกจากนี้ ได้มีบางประเทศได้เปลี่ยนกฏการเข้าเมือง เช่น ประเทศญี่ปุ่นและสิงคโปร์ที่กำหนดให้ชาวเม็กซิกันต้องขอวีซ่าเพื่อเข้าประเทศ จากเดิมไม่จำเป็นต้องขอ

นอกจากนี้แล้ว ยังมีคู่ค้าประมาณ 20 ประเทศ ได้ระงับการนำเข้าเนื้อหมู และผลิตภัณฑ์หมูจากเม็กซิโก สหรัฐฯ และแคนาดา โดยไม่ได้แจ้งให้องค์การค้าโลกหรือประเทศคู่ค้าได้ทราบล่วงหน้า ซึ่งผิดกับแนวทางปฏิบัติทางการค้าภายใต้ข้อบังคับของ WTO ผลักดันให้สามประเทศในเขตการค้าเสรีอเมริกาเหนือร่วมมือกันประท้วงต่อคู่ค้า โดยเฉพาะกับประเทศจีนและรัสเซีย ซึ่งเป็นผู้นำเข้าเนื้อหมูรายใหญ่ของโลก ซึ่งหากมีการระงับการนำเข้ายืดเยื้อออกไป อาจจะนำไปสู่การใช้มาตรการทางการค้าโต้ตอบกัน ซึ่งย่อมไม่เป็นผลดีในภาวะเศรษฐกิจมีปัญหาทั่วโลก ทั้งนี้มูลค่าการค้าเนื้อหมูในระดับโลกมีมูลค่าประมาณ 26 พันล้านเหรียญฯ

มาตรการช่วยเหลือ

รัฐบาลเม็กซิโกได้ประกาศมาตรการให้ความช่วยเหลือฉุกเฉินแก่กิจการขนาดกลางและย่อย ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดเชื้อไข้หวัด N1H1 โดยกำหนดงบประมาณความช่วยเหลือฉุกเฉินประมาณ 840 ล้านเหรียญฯ หรือ 11 พันล้านเปโซ โดยกำหนดส่วนที่จะให้กิจกรรมด้านการท่องเที่ยวจำนวน 2 พันล้านเปโซ ความช่วยเหลือแก่สายการบิน 3 พันล้านเปโซ และ อีกหนึ่งพันกว่าล้านเปโซสำหรับฟื้นฟูภาพลักษณ์ของประเทศเม็กซิโก

งบความช่วยเหลือฉุกเฉินดังกล่าวจะจ่ายผ่านธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งชาติ Nacional Financiera (Nafinsa) โดยมีธนาคารเอกชนทั่วไป 11 แห่งร่วมโครงการกระตุ้นเศรษฐกิจดังกล่าว สามารถให้เงินกู้ดอกเบี้ยร้อยละ 12 โดยสามารถขอผ่อนผันไม่เสียดอกเบี้ยชั่วระยะหนึ่ง และไม่จำเป็นต้องมีหลักทรัพย์ค้ำ คาดว่าเงินช่วยเหลือดังกล่าวจะช่วยบรรเทาปัญหาการเดินเงินของธุรจกิจขนาดกลางได้ 5,000 และธุรกิจขนาดย่อย ๆ อีก 12,000 กิจการ

ได้มีการประเมินว่า ความเสียหายในภาคการท่องเที่ยวเกิดขึ้นประมาณ 4 พันล้านเหรียญฯ และจะมีผลกระทบต่อการจ้างงานที่อาจสูญเสียไป 200,000 ตำแหน่ง

ผลกระทบทางการเมือง

มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากสื่อมวลชนว่า รัฐบาลของนายคาลเดรอน ปิดบังและบิดเบือนข้อเท็จจริงเกี่ยวกับจุดเริ่มต้นของการระบาดของไขหวัด N1H1 โดยได้ชลอการประกาศให้สาธารณชนระมัดระวังตัวช้า หรือในอีกทางหนึ่งได้กระจายความหลาดกลัวเกี่ยวกับการระบาดของเชื้ดไข้หวัดเกินเหตุ ทั้งหมดเพื่อหวังผลทางการเมื่อง เนื่องจากจะมีการเลือกตั้งระดับผู้แทนครึ่งเทอมซึ่งผลการเลือกตั้งดังกล่าวย่อมบ่งชี้แนวโน้มของผู้ทีมีสิทธิชนะการเลือกตั้งประธานาธิบดีคนต่อไปในอีกสามปีข้างหน้า

การสั่งปิดโรงเรียน ที่ทำการและธุรกิจทั่วกรุงเม็กซิโกซิตี้ มีส่วนสร้างความตึงเครียดระหว่างนาย เอบราด ผู้ว่ากรุงเม็กซิโก ซึ่งสมาชิกพรรา PRD และผู้หวังเข้ารับคัดเลือกเป็นประธานาธิบดีในสมัยหน้า กับประธานาธบดีคาลเดรอน ซึ่งเป็นสมาชิก PAN โดยก่อนหน้านี้ ได้มีความแย้งทางการเมืองกันเกี่ยวกับการบริหารเหตุการณ์ต่าง ๆ ในเมืองหลวง เช่น ความปลอดภัย และล่าสุดเรื่องการขนส่งน้ำไม่เพียงพอ

เมื่อวันที่ 12 พฤษภาคม นาย Fidel Castro อดีตประธานาธิบดีของคิวบา ได้แถลงต่อผู้สื่อข่าวต่างชาติว่า หน่วยข่าวกรองของคิวบามีหลักฐานว่า รัฐบาลเม็กซิโกมีข้อมูลเกี่ยวกับผู้ป่วยจากเชื้อไข้หวัด N1H1 แต่ไม่ได้ดำเนินการใด ๆ เนื่องจากไม่ต้องการให้มีผลกระทบต่อการเยือนของนายโอบามา ประธานาธิบดีของสหรัฐฯ เมื่อกลางเดือนเมษายน

No comments: