Google Website Translator

Tuesday, September 30, 2008

Auto Industry in Mexico: Investment Opportunities for Thai Spare Parts

อุตสาหกรรมรถยนต์ของเม็กซิโก โอกาสการลงทุนสำหรับผู้ผลิตชิ้นส่วนไทย

ในปี 2007 ยอดขายรถยนต์ทั่วโลกมีมูลค่า 71.9 ล้านเหรียญสหรัฐฯ โดยในทวีปยุโรปมียอดขาย 22.9 ล้านเหรียญ ในภูมิภาคเอเชีย มียอดขาย 21.4 ล้านเหรียญ ในสหรัฐฯ และแคนาดามียอดขายรวม 19.4 ล้านเหรียญ ในกลุ่มประเทศลาตินอเมริกา มียอดขายรถยนต์มูลค่า 4.4 ล้านเหรียญ ในภาคตะวันออกกลาง ยอดขายรวม 2.4 ล้านเหรียญ และในทวีปแอฟริกา 1.4 ล้านเหรียญ

ตลาดการขายรถยนต์ในภูมิภาคอเมริกาเหนือและญี่ปุ่นได้ชลอตัวลง ในขณะที่ตลาดในอเมริกาใต้และทวีปเอเชียได้ขยายตัวอย่างเข้มแข็ง ตลาดที่ขยายตัวมากที่สุดได้แก่ ตลาดรถยนต์ของประเทศรัสเซีย บราซิล และจีน

ประเทศเม็กซิโก ปัจจุบันเป็นผู้ผลิตรถยนต์อันดับ 9 ของโลก และมีความสามารถผลิตได้ประมาณ 2 ล้านหน่วยต่อปี และมีการคาดคะเนว่าในปี 2011 เม็กซิโกจะมีความสามารถเพิ้มการผลิตได้เป็นผู้ผลิตอันดับ 5 ของโลก และแข่งขันกับผู้ผลิตสำคัญ ๆ เช่น สหรัฐฯ จีน อินเดีย และโสลวาเกีย

อุตสาหกรรมการผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนรถยนต์ มีความสำคัญต่อเศรษฐกิจเม็กซิโก โดยมีส่วนแบ่งของการส่งออกทั้งหมดร้อยละ 19 มีสัดส่วนในผลผลิตรวมแห่งชาติร้อยละ 24 และจ้างแรงงานทั้งหมด 1.9 ล้านคน

วารสาร Mexico Now ได้รายงานว่า ยอดขายรถยนต์ในตลาดเม็กซิโก ในปี 2003 มีจำนวน 973,000 คัน คำนวนจากยอดนำเข้า 598,000 คัน รวมกับจำนวนรถที่ผลิตและขายได้ภายในประเทศอีก 375,000 คัน โดยมีจำนวนรถยนต์ในท้องถนน 11 ล้านคัน

อุตสาหกรรมรถยนต์ของเม็กซิโก ได้เติบโตอย่างรวดเร็วสืบเนื่องจากความตกลงเขตการค้าเสรี NAFTA และโดยที่ประเทศเม็กซิโกมีชายแดนติดกับสหรัฐฯ ผู้ผลิตสหรัฐฯ จึงย้ายฐานการผลิตลงมาที่ประเทศเม็กซิโกเพิ่มขึ้น เพื่อลดต้นทุนด้านแรงงาน โดยแรงงานในเม็กซิโกรับค่าแรงรวมสวัสดิการแล้ว ระหว่าง 8 ถึง 10 เหรียญต่อชั่วโมง ซึ่งถูกมาเมื่อเทียบกับค่าแรงของสหรัฐฯ ซึ่งต้องจ่ายค่าแรงงให้กับแรงงานของสหภาพในอัตราชั่วโมงละ 60 เหรียญ นอกจากนี้ แล้วยังมีบริษัทเม็กซิกันที่มีความสามารถป้อนวัตถุดิบชิ้นส่วนอุปกรณ์รถยนต์ นับวันเพิ่มขึ้น

ในขณะนี้ ประเทศเม็กซิโกได้ลงนามความตกลงเขตการค้าเสรีเพิ่มขึ้น โดยมีความตกลงอำนวยการค้าร่วมกับสหภาพยุโรป ความตกลงเขตการค้าเสรีกับประเทศส่วนใหญ่ในกลุ่มประเทศละตินอเมริกา รวมทั้งความตกลงการค้าพิเศษกับประเทศญี่ปุ่น นั่นหมายความว่า ผู้ผลิตรถยนต์จากประเทศยุโรปและญี่ปุ่นสามารถเปิดโรงงานในประเทศเม็กซิโก และนำเข้าชิ้นส่วนจากบริษัทแม่ในต่างประเทศ โดยยกเว้นภาษีนำเข้า รวมทั้งสามารถส่งออกรถที่ผลิตในเม็กซิโกกลับไปยังยุโรป ญี่ปุ่น รวททั้งสหรัฐฯ โดยไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า

ชิ้นส่วนรถยนต์ที่ผลิตในประเทศเม็กซิโก มีการส่งออกไปยังผู้ผลิตรถยนต์ใน 32 ประเทศซึ่งมีผู้บริโภครวม 680 ล้าน บริษัท Toyota มีโรงงานการประกอบรถยนต์ที่รัฐ Baja California และบริษัท Wolgswagen มีโรงงานที่รัฐ Puebla เพื่อผลิตรถยนต์เพื่อส่งออกไปยังตลาดสหรัฐฯ


ภาพแสดงแหล่งอุตสาหกรรมรถยนต์ในประเทศเม็กซิโก

จากวารสาร Mexico Now

ระหว่าปี 1994 และ 2001 ประเทศเม็กซิโกได้รองรับเงินลงทุนใหม่จากต่างประเทศมากกว่าหมื่นพันล้านเหรียญฯ เป็นการลงทุนระยะยาวในการสร้างโรงงาน และการลงทุนซื้อหรือปรับปรุงเครื่องจักรใหม่ อันเป็นผลให้โรงงานในเขตภาคเหนือและภายกลางของเม็กซโก เป็นโรงงานผลิตรถยนต์ที่ทันสมัยที่สุดในระดับอุตสาหกรรมรถยนต์ทั่วโลก เป็นการยกระดับภาคอุสาหกรรมรถยนต์โดยรวม และส่งผลให้มีการพัฒนาในระดับภูมิภาค โดยได้มีการเกินกลุ่ม (specialized cluster) กิจกรรมเฉพาะสนับสนุนการผลิตรถยนต์ ในพื้นที่รอบข้างโรงงานผลิตรถยนต์รายใหญ่ ๆ การมี supply chain ที่เข้มแข็ง และการขยายธรุกิจรองรับในแนวนอน (vertical integration)

จากปี 1997 อุตสาหกรรมรถยนต์ของเม็กซิโกได้เน้นการผลิตรถขนาดเล็ก subcompact เช่น ในศูนย์การผลิตของยี่ห้อ Volkswagen ในรัฐ Puebla ซึ่งผลิต beetle รุ่นใหม่เพื่อการส่งออกไปยังสหรัฐฯ และยุโรป

จากปี 1999 บริษัทนิสสัน ได้เริ่มการผลิตรถนิสสันรุ่น Sentra ที่โรงงานในรัฐ Aguascalientes เพื่อการส่งออกไปยังตลาดในทวีปอเมริกาเหนือและใต้ และในปีเดียงกันนี้ บริษัท Daimler-Chrysler จะย้ายฐานการผลิตรถรุ่น PT Cruiser เพื่อการส่งออกไปยังกว่า 60 ประเทศ ที่รัฐ Toluca โดยให้มีกำลังการผลิตได้ สามแสนคันต่อปี
สำหรับการผลิตในรัฐฯ Aguascaliente มีกลุ่มผู้ลงทุนจากยุโรปที่มุ่งการพัฒนาศูนย์กลางการผลิตรถยนต์ที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม และมีความต้องการผู้ป้อนชิ้นส่วนวัตถุดิบในพื้นที่ใกล้เตียง

ที่รัฐ Jalisco ซึ่งมีอุตสาหกรรมรถยนต์ที่เข้มแข็งที่สุดในประเทศ โดยมีผู้ผลิตรถยนต์และชิ้นส่วนกว่า 60 ราย

รัฐ Cohuila มีสัดส่วนการผลิตรถยนต์ร้อยละ 26 ของการผลิตทั้งประเทศ ประมาณ 480,000 คัน ได้รับเงินลงทุนจากต่างประเทศในระหว่างปี 2006-2008 เป็นจำนวน 3,744 ล้านเหรียญฯ นอกจากนี้ ในระยะ 2 ปีที่ผ่านมา รัฐ Cohuila ได้เป็นเจ้าภาพงานแสดงสินค้าของผู้ผลิตรถยนต์และชิ้นส่วน Expo Industria Automotriz

บริษัท Ford ได้ลงทุนเพิ่มจำนวน 1.2 พ้นล้านเหรียญฯ เพื่อการยกระดับการผลิตทีโรงงานในรัฐ Hermosillo และในปี 2088 ได้มีการจ้างงานเพิ่มขึ้น 500 คน นอกจากนี้ บริษัท Ford ยังได้ร่วมทุนในสัดส่วนร้อยละ 20 กับบริษัท Nemak ผู้ผลิตเครื่องยนต์และชิ้นส่วนโดยอลูมินัม ที่รัฐ Monterrey

บริษัท Toyota มีฐานการผลิตที่รัฐ Baja California และในปี 2008 บริษัทในเครื่อของ Toyota อันได้แก่ Hino ได้ลงทุนที่รัฐ Guanajuato ในระยะแรกจำนวน 9 ล้านสหรัฐฯ และจ้างงานเพิ่มอีก 40 ตำแหน่ง เพื่อการผลิตรถบรรทุก โดยมีแผนการลงทุนทั้งหมด 100 ล้านเหรียญฯ ในระยะ 5 ปี ข้างหน้า โดยโรงงานดังกล่าวจะมีกำลังการผลิตรถบรรทุกรุ่น Hino 500 ทั้งหมด 1,200 คันต่อปี

ตลาดซัพพลายด้าน OEM และส่วนประกอบ มีโอกาสสำหรับ ส่วนประกอบของรถยนต์ดัดแปลง ระบบป้องกันการสั่นสะเทือน ชิ้นส่วน stamping อุปกร์อิเลคตรอนนิกส์ เครื่องมือและอุปกรณ์เฉพาะด้าน

ตลาดชิ้นส่วนและส่วนประกอบรถนยต์ มีความสำคัญมาก การผลิตมูลค่า 20 พันล้านเหรียญ การส่งออกชิ้นส่วนสำคัญ มี ผู้supply ชิ้นส่วนรถยนต์ ประมาณ 1000 บริษัท สองส่วนสามเป็นต่างชาติ อีกส่วนสามเป็นเม็กซิกัน

ชิ้นส่วนรถยนต์สำหรับการบริการหลังการขาย เป็นตลาดสำคัญที่มีโอกาสการขยายตัวสูง มีสินค้าที่มีความต้องการสูงได้แก่ ชิ้นส่วนสำหรับซ่อมแซมส่วนเสียหาที่เกิดจากการชนปะทะ อุปกรณ์ที่ช่วยลดสารเป็นพิษในระบบท่อไอเสีย พวมาลัย ระบบเสียง ระบบนำทาง GPS ส่วนประกอบอื่น ๆ และเครื่องประดับรถยนต์

เม็กซิโกได้ผ่อนผันกฏระเบียบเกี่ยวการนำเข้ารถนั่งส่วนบุคคลที่ใช้แล้ว ซึ่งจะส่งผลให้ความต้องการชิ้นส่วนและอุปกรณ์สำหรับการปรับปรุงซ่อมฉซมเพิ่มขึ้น
ภาวะเศรษฐกิจตกต่ำในหสรหัฐ ย่อมมีผลต่อยอดขายและยอดการส่งออกรถยนต์ในระยะสั้น แต่ต้นทุนการผลิตที่ต่ำว่าและความใกล้ชิดกับตลาดที่สำคัญเช่น สหรัฐฯ ยังคงเป็นปัจจัยที่ส่งเสริมให้โอกาสการขยายตัวของอุตสาหกรรมรถยนต์ของเม็กซิโกในระยะยาวยังดีอยู่


แหล่งข้อมูลอ้างอิง:
Mexico's carmakers in a ditch บทความจาก Business Week
Website สำคัญ:
INA สมาคามอุตสาหกรรมผู้ผลิตชิ้นส่วนรถยนต์เม็กซิโก
AMIA สมาคมอุตสาหกรรมผู้ผลิตรถยนต์เม็กซิโก
Anpact สมาคมผู้ผลิตรถบรรทุกและรถไถ
Mexico Now

No comments: