Google Website Translator

Thursday, July 17, 2008

สิทธิประโยชน์เพื่อส่งเสริมการส่งออกของประเทศเม็กซิโก

1) Maquiladora
ประเทศเม็กซิโกได้เริ่มนโยบายส่งเสริมการลงทุนเพื่อการส่งเสิรมการส่งออก ภายใต้โครงการมาคิลาด้อรา (Maquilador) ตั้งแต่ช่วงทศวรรษปี คศ. 1950

ผู้ขอใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้โครงการมาคิลาด้อราเป็นนักลงทุนจากต่างชาติ ส่วนใหญ่จากสหรัฐฯ

อุตสาหกรรมภายใต้มาคิลาด้อราได้เริ่มขยายตัวในทศวรรษต่อ ๆ มา จนกลายเป็นแหล่งเงินตราต่างประเทศอันดับสองรองจากน้ำมันในช่วงปี 1980

จากปี 1973 เป็นต้นมา การส่งออกของอุตสาหกรรมมาคิลาด้อรา มีสัดส่วนประมาณครึ่งหนึ่งของการส่งออกทั้งหมด ระหว่างปี 1995 ถึง 2000 การขยายตัวของกลุ่มอุตสาหกรรม ที่ใช้สิทธิประโยชน์ภายใต้โครงการดังกล่าว ได้เพิ่มขึ้น 3 เท่าตัว เทียบเท่ากับการเปิดกิจกรรมที่ใช้สิทธิประโยชน์ฯ หนึ่งแห่งต่อวัน

ในช่วงทศวรรษที่ผ่านมา ผลผลิตของอุตสาหกรรมภายใต้โครงการฯ มีสัดส่วนเป็นร้อยละ 25 ของผลผลิตรวมแห่งชาติ (GDP) และจ้างงานร้อยละ 17 ของแรงงานประเทศ (ราว ๆ ล้านกว่าคน) แต่ผลกำไรของกิจกรรมเหล่านี้ี้ มักจะถูกส่งกลับไปยังประเทศผู้ลงทุน เช่น สหรัฐฯ จึงไม่ได้มีผลช่วยการพัฒนาเศรษฐกิจโดยตรงของประเทศเม็กซิโกเท่าที่ควร

หลังจาก ปี 2000 เป็นต้นมา การแข่งขันจากต้นทุนแรงงานที่ต่ำกว่า จากประเทศจีนและกลุ่มประเทศอเริกากลาง ได้มีผลทำให้อุตสาหกรรมการส่งออกภายใต้โครงการมาคิลาด็อราเริ่มอ่อนตัวลง

ผู้มีสิทธิขอรับสิทธิประโยชน์มาคิลาด้อรา มี 4 ประเภทคือ
    1. ผู้ได้รับจ้างให้ทำการผลิตเพื่อการส่งออก (sub-contract)
    2. ผู้ลงทุนต่างชาติเป็นผู้จัดหาวัตถุดิบและเครื่องจักรการผลิต และผู้ผลิตฝ่ายเม็กซิกัน เป็นผู้บริหารและจัดหาแรงงาน (shelter program)
    3.เป็นการลงทุนร่วมระหว่างผู้นำเข้าฝ่ายต่างชาติิกับบริษัทเม็กชิกัน ที่ดำเนินการเดินเรื่องด้านกฏหมาย และเอื้ออำนวยการผลิตภายในประเทศ (joint venture)
    4. บริษัทต่างชาติเป็นผู้ลงทุนเต็มรูปแบบ (sole proprietor)
การขอใฃ้สิทธิ

ผู้ขอใช้สิทธิต้องยื่นของใบอนุญาติประกอบกิจกรรมมาคิลาด้อรา กับกระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรม (Secreterian de Comercio y Fomento Industrial/SECOFI)ซึ่งเป็นผู้ประสานต่อกับกรมศุลกากร เพื่อให้อนุญาติการนำเข้าตามรายการที่ขอ (วัตถุดิบ เครื่องจักร วัสดุที่ใช้การบรรจุ) ระยะเวลาที่ปัจจัยเหล่านี้ จะอยู่ภายในประเทศได้ก่อนการส่งออก อัตราส่วนที่สามารถถือว่าเป็นส่วนที่ศูนย์เสียไปในการผลิต และท่านำเข้าและส่งออกที่อนุญาตให้ผ่าน ทั้งนี้ บริษัทผู้ส่งออกต้องใช้บริการของตัวแทนศุลกากรอิสระที่ได้รับอนุมัติ หรือจ้างเป็นพนักงานในบริษัทเจ้าหน้าที่ศุลกากรที่ได้รับอนุมัติจากกรมศุลกากร

บริษัทผู้ขอใช้สิทภายใต้โครงการมาคิดอร้า ฺสามารถนำเข้าเงินทุนใหม่ (working capital/operating expenses) เป็นรายเดือนจากแหล่งทุนต่างประเทศ ต้องแจ้งรายได้และเสียภาษีรายได้(28%) ภาษีหลักทรัพย์(1.5%) (ซึ่งผู้ลงทุนสามารถเลือกจ่ายระหว่างภาษีหนึ่งในสองดังกล่าวที่มูลค่าสูงกว่า)และต้องเสียภาษีมูลค่าเพิ่ม(15%) สำหรับสินค้าทีซื้อภายในประเทศ แต่สามารถขอคืนภาษีได้ และสุดท้ายต้องแจ้งภาษีแรงงานอีกด้วย

ภาษีนำเข้าที่สามารถขอยกเว้นได้

อนึ่ง การส่งออกไปยังสหรัฐฯ ได้รับการยกเว้นภาษีนำเข้าเนื่องจากพิกัด 800, 806.20, 806.30, และ 807 อนุญาติให้นำเข้าสินค้า (re-entry) ที่ได้มีแหล่งกำเนิดจากสหรัฐฯ โดยปลอดภาษี ทั้งนี้มาตรา 9802.00.60 9802.00.40 ภายใต้ Harmonized System ของสหรัฐฯ ระบุให้เก็บภาษีมูลค่าเพิ่มสำหรับสัดส่วนที่มีการผลิตในต่างประเทศ แต่ภายใต้ระบบ GSP(Generalized System of Preference) ของสหรัฐฯ ถือว่าหากสัดส่วนที่ผลิตจากเม็กซิโกเกินร้อย 35 สามารถนำเข้าโดยปลอดภาษี

เขตพื้นที่

อุตสาหกรรมมาคิลาด้อราส่วนใหญ่จะตั้งอยู่ในพื้นที่ ที่อยู่ตามชายแดนเม็กซิโก-สหรัฐฯ ซึ่งได้แก่เมือง Tijuan, Tecate, Mexcali, San Luis Rio Colorado, Nogales, Agua Prieta, Ciudad Juarez, Cuidad Acuna, Piedras Negras, Matamoros, Ciudad Tamaulipas นอกจากนี้ เมืองอื่น ๆ ที่ห่างออกไปเล็กน้อยราว 2-3 ชั่วโมงได้แก่ Ensenada, Hermosillo, Ciudad Chihuahua, และ Monterrey

ภาคอุตสาหกรรม

ภาคอุตสาหกรรมที่ได้เติบโตเนื่องจากโครงการสิทธิประโยชน์มาคิลาด้อรา ได้แก่ อุตสาหกรรมยุคแรกคือ ยานยนต์ อิเล็คตรอนนิกส์ เครื่องมืออุปกรณ์ไฟฟ้า และอุตสาหกรรมที่กำลังเติบโตใหม่ คือ การผลิตเครื่องบิน ศูนย์ค้นคว้าและวิจัย ลอจิสติก การอำนวยธุรกิจ และการผลิตอุปกรณ์เครื่องมือแพทย์

2) PITEX

การให้สิทธิประโยชน์ภายใต้โครงการ PITEX (Program for Temporary Imports to Promote Exports) ได้เริ่มใช้ในปี 1990 เพื่อให้สิทธิประโยชน์นักลงทุนภายในประเทศ สามารถทำการผลิตให้มีความแข่งขันในระดับเดียวกับนักลงทุนต่างชาติที่ให้สิทธิมาคิลาด้อรา โรงงานเม็กซิกันที่มีการส่งออกเกินกว่าร้อยละ 10 ของยอดขายสามารถนำเข้าวัตถุดิบได้โดยยกเว้นภาษีนำเข้า แต่ต้องมีการส่งออกภายในระยะเวลาที่กำหนดไว้ หากมีการส่งออกมากกว่าร้อยละ 30 สามารถนำเครื่องจักรและอุปกรณ์การผลิตเข้ามาโดยปลอดภาษี

3) IMMEX

รัฐบาลกลางแห่งเม็กซิโกได้ประกาศกฏระเบียบใหม่เพื่อรวมโครงการสิทธิประโยชน์เพื่อการส่งออก ให้อยู่ภายใต้รายการเดียวซึ่งเรียกว่า IMMEX (Maquiladora Manufacturing Industry and Export Services) เมื่อวันที่ 1 พฤศจิกายน คศ. 2006 เป็นการลดขั้นตอนการในการขออนุญาตจาก 29 รายการ เหลือ 16 รายการ บริษัทผู้ขอใช้สิทธิต้องใช้สิทธิภายใต้โครงการสิทธิของ IMMEX เพียงโครงการเดียว แต่สามารถมีรูปต่าง ๆ ได้ แก่ Umbrella Maquila, industrial, services, shelter, certified third party entities ทั้งนี้ ต้องมีการส่งออกรายปีมากกว่า 500,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือส่งออกอย่างน้องร้อยละ 10 ของ annual invoice และต้องมี Advance Electronic Signature สำหรับบริษัทที่ใช้สิทธิตามโครงการ Mauiladora และ PITEX จะได้รับการหมายเลข IMMEX จากกระทรวงเศรษฐกิจ และสามารถใช้สิทฺประโยชน์เดิมได้ถึง 1 กรกฏาคม คศ. 2007

4) เปรียบเทียบสิทธิประโยชน์ระหว่าง Maquiladora, PITEX และ IMMEX

ผู้ผลิตเม็กซิกันที่ใช้โครงการสิทธิประโยชน์ของ PITEX มีข้อได้เปรียบ คือสามารถขายสินค้าภายในประเทศเม็กซิโกได้โดยไม่มีข้อจำกัด ในขณะที่ผู้ใช้สิทธิ Mauiladora ไม่สามารถขายสินค้าภายประเทศได้ในระยะแรก ในขณะที่ผู้ใช้สิทธิ Maquiladora ได้รับการยกเว้นภาษีมูลค่าเพิ่มภายในประเทศ

การให้สิทธิภายใต้โครงการ IMMEX เพียงโครงการเดียว เป็นการช่วยลดขั้นตอนการขออนุญาต เนื่องจากหลายบริษัท เปลี่ยนการขอให้สิทธิกลับไปกลับมา และในแง่การรวบรวมสถติและติดตามภาวะอุตสาหกรรม ซึ่งอยู่ภายใต้การดูแลของ INEGI (Instituto Nacional de Extadistica, Geografia y Informacion)
จะยกเลิกการรายงานตัวเลข Maquiladora โดยจะรายงานตัวเลข IMMEX แทน ซึ่งอาจส่งผลเสียเล็กน้อยสำหรับผู้รวบรวมภาวะอุตสาหกรรมระดับภูมิภาค ซึ่งตัวเลข Maquiladora แยกรายการย่อยตามภูมิภาค ในช่วงปรับตัวเลขจะขาดข้อมูลดังกล่าวไป 12 เดือน และตัวเลขใหม่จะไม่สามารถให้ภาพย้อนหลังจนกว่าจะมีการเก็บสิถติอีกหลายปี

โครงการสิทธิประโยชน์ IMMEX ได้ประกาศเป็น Decree และยังไม่ได้ออกเป็นกฏหมาย Custom Law ฉะนั้น กระทรวงต่าง ๆ ที่เกี่ยงข้อง ซึ่งได้แก่ กระทรวงพาณิชย์และอุตสาหกรรม กระทรวงเศรษฐกิจ กรมศุสกากร ยังสามารถกำหนดขั้นตอนภายในอีกตามใจชอบ นอกจากนี้แล้ว รัฐบาลของประธานาธิบดี Calderon ยังจะมีการปรับปรุงโครงสร้างภาษี (fiscal reform) เพิ่มเติม ซึ่งจะปรับภาษีของการประกอบธุรกิจ ให้มีอัตรารวมตัวเดียวสำหรับอุตสาหกรรมทุกประเภท ซึ่งเรียกว่า CETU ฉะนั้นข้อได้เปรียบด้านภาษีบางส่วนของ Maquiladora จะหมดไปอันเป็นผลให้ต้องเสียภาษีรายได้สูงขึ้น

No comments: